SEARCH

ดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์พุ่งขึ้นเนื่องจากตลาดมองข้าม Omicron

หุ้นวอลล์สตรีทปิดลง ดัชนีหลายตัวฟื้นช่วงสั้นๆ หลังรายงานเฟดออกมา
ประธาน JPMorgan ชี้น้ำมันที่สูงขึ้นจะสร้างความผันผวนในระบบเศรษฐกิจ
วอลล์สตรีทร่วงจากบอนด์ยีลด์สหรัฐแตะเหนือ 3%

ดอลลาร์ออสซี่ขึ้นที่ 0.7235 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านที่ 0.7224 ดอลลาร์ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 0.7252 ดอลลาร์ในชั่วข้ามคืน นั่นทำให้ราคาสูงขึ้น 1.5% ในสัปดาห์นี้ แนวต้านอยู่ที่ 0.7275 และ 0.7368 ดอลลาร์ พร้อมแนวรับที่ 0.7195 ดอลลาร์

ดอลลาร์กีวียืนที่ 0.6821 ดอลลาร์ หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบสามสัปดาห์ที่ 0.6843 ดอลลาร์ โดยแข็งขึ้น 1.3% ในสัปดาห์และอยู่ห่างจากระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือนล่าสุดที่ 0.6702 ดอลลาร์ แนวต้านอยู่ที่ 0.6867 ดอลลาร์

การแพร่กระจายของเชื้อ Omicron ทำให้เกิดข้อจำกัดทั่วโลก ผู้ผลิตยา 2 รายกล่าวว่าวัคซีนของพวกเขาป้องกันการติดเชื้อได้ในขณะที่การศึกษาพบว่าสายพันธุ์ดังกล่าวมีความรุนแรงของอาการป่วยน้อยกว่า

ในออสเตรเลีย รัฐส่วนใหญ่ให้สวมหน้ากากและออปกฎการเว้นระยะห่างทางสังคม แต่รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะไม่ปิดเมืองอีก เศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดีด้วยการใช้จ่ายผ่านบัตรธนาคารที่ยังคงสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด และการจ่ายเงินเดือนก็ฟื้นทั้งหมดระหว่างการล็อกดาวน์เมื่อเร็วๆ นี้
Ben Udy นักเศรษฐศาสตร์จาก Capital Economics กล่าวว่า “ด้วยอัตราการออมของครัวเรือนที่น่าจับตามองถึง 20% ในไตรมาสที่ 3 และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงอยู่ การคาดการณ์ของเราว่าการบริโภคจะเพิ่มขึ้น 8% ในปีหน้านั้นสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.8%”

ขณะนี้ไม่มีการเผยแพร่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญจนถึงสัปดาห์ที่สองของเดือนมกราคม ข้อมูลสำคัญสำหรับ Reserve Bank of Australia (RBA) จะเป็นรายงานการจ้างงานเดือนธันวาคมในวันที่ 20 มกราคม และราคาผู้บริโภคสำหรับไตรมาสที่สี่ในวันที่ 25 มกราคม นักวิเคราะห์คาดว่าเงินเฟ้อพื้นฐานที่สูงอีกครั้ง ซึ่งอาจกระตุ้นให้ RBA ยุติการซื้อพันธบัตรในเดือนกุมภาพันธ์ และอาจชะลอการยืนยันที่ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่น่าจะเกิดขึ้นในปี 2565

ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยสองครั้งเป็น 0.75% และคาดว่าจะขยับไปที่ 1.0% ในการประชุมนโยบายวันที่ 23 ก.พ. และจะสิ้นสุดในเดือนตุลาคมปีหน้า

แหล่งข่าว Australia, NZ dlrs rally as markets look beyond Omicron โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0