ราคาน้ำมันลดลงเล็กน้อยเนื่องจากความกังวลการเติบโตของจีนขัดแย้งกับการลดกำลังการผลิต

ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันพุธ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของอุปสงค์ในจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก ขัดแย้งกับอุปทานที่ลดลงท่ามกลางการลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตรายใหญ่ ราคายังได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อที่จ่ายเป็นสกุลเงินอื่นน้อยลง สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมัน Brent ตกลง 13 เซนต์ สู่ 81.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมัน WTI ของสหรัฐ ตกลง 11 เซนต์ สู่ 78.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2567 ที่ประมาณ 5% ยังคงขาดการกระตุ้นเพื่อประคองเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเพิ่มความกังวลว่าการเติบโตของอุปสงค์ในประเทศอาจล่าช้าในปีนี้ ความเสี่ยงของการซื้อขายถูกมองว่าน้อยลงจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่ลดลงซึ่งยังกดดันราคาน้ำมันด้วย ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันอังคารจากการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) ขยายเวลาการลดกำลังการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นไตรมาสที่สอง การขยายเวลาทำให้เกิดความตึงตัวในอุปทานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเอเชีย ควบคู่กับการหยุดชะงักเรือบรรทุกน้ำมันจากการโจมตีในทะเลแดงโดยกองกำลังติดอาวุธฮูตีในเยเมน

สัญญาณของความตึงเครียดเพิ่มขึ้นชัดเจนเมื่อซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศว่าราคาน้ำมันดิบที่ขายไปยังเอเชียจะสูงขึ้นเล็กน้อย

รายงานสินค้าคงคลังสหรัฐของสัปดาห์นี้แสดงให้เห็นว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 423,00 บาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 มีนาคม น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก 2.1 ล้านบาร์เรล

ข้อมูล API ระบุตามแหล่งข่าว ระบุว่าสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล และสต็อกเชื้อเพลิงกลั่นลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล

แหล่งข่าว Oil fell slightly as China growth worries clash with output cuts  โดย Reuters