สรุปเดือนมีนาคม ผู้กำหนดนโยบายของ BOJ เห็นว่าจำเป็นต้องชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต 

ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นมองเห็นความจำเป็นที่จะค่อยๆยุตินโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ โดยกรรมการคนหนึ่งกล่าวว่าเศรษฐกิจไม่ดีนักจึงไม่รับประกันว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่า BOJ จะยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ แต่ก็ต้องระมัดระวังจากเศรษฐกิจที่ไม่สามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญคือต้องสื่อสารให้ชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงในกรอบนโยบายการเงินจะไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงนโยบายเข้มงวดทางการเงิน แต่เป็นความพยายามเพื่อให้บรรลุเป้าหมายราคา BOJ สิ้นสุดระยะเวลา 8 ปีของอัตราดอกเบี้ยติดลบและนโยบายอื่นๆเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากการมุ่งเน้นไปที่การเติบโตด้วยมาตรการกระตุ้นทางการเงินครั้งใหญ่หลายทศวรรษ BOJ ต้องการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตและอาจทำให้ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากนักลงทุนเห็นช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยสหรัฐและญี่ปุ่น

หุ้นสหรัฐปิดตัวสูงขึ้นในวันพุธ โดย S&P 500 สร้างสถิติอีกครั้งก่อนรายงานเงินเฟ้อที่สำคัญในวันศุกร์ ในการประชุม ผู้กำหนดนโยบายบางรายกล่าวว่าข้อมูลล่าสุด เช่น การปรับขึ้นค่าจ้างของบริษัทใหญ่แสดงให้เห็นเหตุผลในการยุตินโยบายผ่อนคลายพิเศษ เนื่องจากบรรลุตามเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ของธนาคารอย่างยั่งยืน แต่สมาชิกคณะกรรมการหลายคนเรียกร้องให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดมากขึ้นว่าค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นจะกระจายไปยังบริษัทขนาดเล็กหรือไม่ และงต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นได้ผลักดันราคาบริการให้สูงขึ้นหรือไม่

การตัดสินใจในการประชุมวันที่ 18-19 มีนาคม เพื่อออกจากนโยบายหลวมพิเศษมีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 โดยอดีตนักวิชาการ อาซาฮี โนกูจิ และอดีตผู้บริหารของบริษัท โทโยอากิ นากามูระ ไม่เห็นด้วยกับการยุติการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนและอัตราดอกเบี้ยติดลบพร้อมกัน โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพยุงเศรษฐกิจต่อไปด้วยการตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เอาไว้ แม้จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่เงินเยนก็ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสามทศวรรษเนื่องจากตลาดคาดว่า BOJ จะใช้เวลาขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ปัจจุบัน BOJ ซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่าประมาณ 6 ล้านล้านเยน (39.6 พันล้านดอลลาร์) ต่อเดือน โดยสมาชิกรายหนึ่งกล่าวว่า BOJ ควรปล่อยให้อัตราผลตอบแทนระยะยาวเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากขึ้น โดยปล่อยให้ปริมาณการซื้อเพิ่มขึ้นหรือลดลงประมาณ 1-2 ล้านล้านเยนต่อระดับจากระดับปัจจุบัน

แหล่งข่าว BOJ policymakers saw need to go slow in future rate hikes, March summary shows โดย Reuters