SEARCH

เทรนด์ “ฟินเทค” สุดปัง ปี 64 ยอดลงทุนทั่วโลกพุ่งสูง 2.1 แสนล้านดอลลาร์

ธนาคารกลางอังกฤษเตรียมขายพันธบัตร QE เป็นแห่งแรก
จีนพร้อมรับมือสำหรับการรับมือกับโควิด-19 “ระลอกใหม่”
น้ำมันขึ้นจากอุปทานที่ตึงตัว

จากรายงานเกี่ยวกับเทรนด์การลงทุนในเทคโนโลยีทางด้านการเงิน (Fintech) Pulse of Fintech H2’21 ซึ่งจัดทำขึ้นปีละสองครั้งโดย เคพีเอ็มจี พบว่า ในปี 2564 การลงทุนใน Fintech ทั่วโลกผ่านการควบรวมกิจการ (Merger & Acquisition – M&A) การลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Private Equity – PE) และธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital – VC) มียอดรวมสูงถึง 210,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการทำดีล (Deals) ทั้งสิ้น 5,684 ครั้ง ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยยอดเงินลงทุนใน Fintech ช่วงครึ่งหลังของปี 2564 (H2’21) อยู่ที่ 101,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งต่ำกว่าครึ่งแรกของปี (H1’21) ซึ่งมียอดเงินลงทุนที่ 109,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเล็กน้อย

ดีลการลงทุนในบริษัท Fintech ที่ใหญ่ที่สุดของช่วงครึ่งหลังของปี 2564 มีมูลค่า 9,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการที่บริษัท Nexi ที่ตั้งอยู่ในอิตาลี ซื้อบริษัท Nets ซึ่งเป็นบริษัทในเดนมาร์กที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับระบบชำระเงิน (Payments processor) รองลงมาคือ การควบรวมของ Calypso Technology ที่ทำระบบคลาวด์ (Cloud) เข้ากับ AxiomSL ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการกำกับดูแล (RegTech) เพื่อจัดตั้งบริษัท Adenza ในสหรัฐอเมริกาด้วยทุนจดทะเบียน 3,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการซื้อบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น Paidy โดย PayPal ด้วยเงิน 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในครึ่งหลังของปี 2564 มี VC สี่ดีลที่สามารถระดมทุนได้เกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่
บริษัท Generate ในสหรัฐอเมริการะดมทุนได้ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ธนาคาร NuBank ในบราซิลระดมทุนได้ 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
บริษัท Chime ในสหรัฐอเมริการะดมทุนได้ 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
บริษัท FTX ในบาฮามาสที่ระดมทุนได้ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ระบบการชำระเงินยังคงเป็นกลุ่มธุรกิจที่สามารถระดมทุนได้มากที่สุด โดยในปี 2564 สามารถระดมทุนทั่วโลกรวมกันได้ 51,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 29,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 อันเนื่องมาจากความสนใจที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในธุรกิจรูปแบบ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” โดยการชำระเงินที่ฝังตัวเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อขายสินค้าหรือให้บริการ (Embedded banking) และการที่สถาบันการเงินเปิดให้เชื่อมต่อ API ได้ (Open Banking) ทำให้ธุรกิจด้านการชำระเงินนั้นได้รับความสนใจเสมอมา

นอกจากนี้ บล็อกเชนและคริปโท เป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและสามารถระดมทุนได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 30,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มจาก 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 และมากกว่าสถิติเดิมที่ทำไว้ในปี 2561 ถึงสามเท่าที่ 8,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber security) สามารถระดมทุนได้ 4,850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเทคโนโลยีการลงทุนบริหารความมั่งคั่ง (Wealthtech) สามารถระดมทุนได้ 1,620 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกลุ่มธุรกิจสองกลุ่มหลังนี้ต่างระดมทุนได้สูงสุดในประวัติการณ์เช่นกัน

แหล่งข่าว เทรนด์ “ฟินเทค” สุดปัง ปี 64 ยอดลงทุนทั่วโลกพุ่งสูง 2.1 แสนล้านดอลลาร์, bangkokbiznews, 01 มี.ค. 2565

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0