SEARCH

คลังเล็งเพิ่มมาตรการภาษีจูงใจเอกชนจ้างสูงวัย

น้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น หลังสหรัฐแบนน้ำมันรัสเซีย หุ้นเอเชียทรงตัว
บล.กสิกรไทย เปิด 4 ปัจจัยสำคัญกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปี
กนง. หั่นจีดีพีปี 65 โต 3.4% ลดลงจากเดิม 3.9%

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุ การสนับสนุนผู้สูงวัยให้มีงานทำควรมีมาตรการเข้ามาสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับกรณีที่ไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) หรือมีสัดส่วนของประชากรสูงอายุมากกว่า 10% ของประชากรทั้งประเทศ ตั้งแต่ปี 2548 โดยปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรสูงอายุ 12.5 ล้านคน หรือคิดเป็น 19% ของประชากรทั้งประเทศ

โดยเป็นจากอัตราการเกิดที่ลดลง ประกอบกับประชากรมีอายุเฉลี่ยยืนยาวขึ้น ส่งผลให้สัดส่วนของประชากรสูงอายุ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการคาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) คือ มีสัดส่วนของประชากรสูงอายุมากกว่า 20% ในอีก 1 – 2 ปีข้างหน้า และจะเป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Super-Aged Society) หรือมีประชากรสูงอายุมากกว่า 28%ในปี 2577

การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรไทยดังกล่าว ส่งผลให้มีประชากรที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงมากขึ้น ดังนั้นประชาชนทุกคนจึงควรมีการเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะการออมเงินระยะยาวให้เพียงพอสำหรับการใช้จ่ายตลอดช่วงวัยเกษียณ และรวมถึง รัฐบาลควรมีมาตรการสนับสนุนให้ภาคเอกชนจ้างงานผู้สูงวัยมากขึ้น

จำนวนเงินสะสมและเงินสมทบที่สูงขึ้น จะทำให้สมาชิก กอช. มีเงินบำนาญเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงในอนาคตให้มีเงินเพียงพอในการดำรงชีพยามชราภาพ โดยสมาชิก กอช. ที่เริ่มออมตั้งแต่อายุ 15 ปี และออมต่อเนื่องจนถึงอายุ 60 ปี จะมีโอกาสได้รับเงินบำนาญประมาณ 12,000 บาทต่อเดือน จากเดิมประมาณ 5,300 บาทต่อเดือน ในกรณีส่งเงินสะสมเต็มเพดานเงินสะสม ซึ่งการปรับเพิ่มจำนวนเงินสะสมและจำนวนเงินสมทบดังกล่าว จะเป็นการสนับสนุนการออมของแรงงานนอกระบบให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคม เพิ่มแรงจูงใจในการออม รวมทั้งเตรียมความพร้อมรองรับสังคมสูงอายุ โดยเฉพาะส่งเสริมให้กลุ่มเยาวชนมีการออมเพื่อการเกษียณเร็วขึ้น

แหล่งข่าว คลังเล็งเพิ่มมาตรการภาษีจูงใจเอกชนจ้างสูงวัย, bangkokbiznews, 6 ก.พ. 2566

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0