SEARCH

ควรมีเงินสดในมือไว้บ้าง รับความผันผวนช่วงต้นปีที่น่าจะเป็นโอกาสซื้อ

หุ้นวอลล์สรีทยังคงเคลื่อนไหวแบบกระท่อนกระแท่นท่ามกลางข่าวมหภาคที่ลบ
ข้อมูลเศรษฐกิจของยุโรปที่ดีเกินคาดไม่สามารถหยุดการอ่อนค่าของยูโรได้
การนำเข้า-ส่งออกของจีนที่หดตัวลงกำลังสะท้อนความอ่อนแอของเศรษฐกิจ?

สำหรับภาพรวมการระบาดของโควิดทั่วโลก จำนวนผู้ติดเชื้อทำจุดสูงสุดใหม่ ขึ้นไปแตะ 1 ล้านคนต่อวัน ในขณะที่อัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าการระบาดช่วง 3 ครั้งก่อนหน้า ซึ่งทำให้ถึงแม้จะเกิดการระบาด แต่ถ้าประชาชนมีอัตราการได้รับวัคซีนที่ต่ำ และการระบาดไม่เกิดรวดเร็วจนเกินไป จะทำให้สามารถควบคุมการระบาดได้โดยอาจไม่ต้องปิดเมือง ซึ่งนักลงทุนยังรอประเมินสถานการณ์ระบาดที่อาจเกิดขึ้นในประเทศช่วงต้นปี ทำให้ชะลอการลงทุนในระยะสั้น

ภาพรวมครึ่งแรก 2565 เป็นบวก ความผันผวนจากปัจจัยท้ายทายต้นปีจะเป็นโอกาสซื้อ ภาพรวมของ ASEAN เป็นบวก เนื่องจากเป็นภูมิภาคเดียวของโลกที่ GDP ปี 2565 ที่เติบโตเหนือกว่า 2564 (ในขณะที่ประเทศส่วนใหญ่จะเริ่มโตชะลอลง) ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดเมืองในช่วงปลายปี 2564 ที่จะส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะครึ่งแรกปี 2565 ทำให้เราคาดหวังมีโอกาสเห็นเงินทุนไหลเข้า จากการเพิ่มน้ำหนักลงทุนประเทศในกลุ่ม ASEAN โดยคาดหุ้นขนาดใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคในประเทศ ทั้งนี้ช่วงต้นปี หุ้นไทยมีความท้าทายจาก 3 ประเด็น ได้แก่ 1) การระบาดของสายพันธ์โอมิครอน 2) การไถ่ถอนหน่วยลงทุน LTF ประมาณ 1.5-2 หมื่นล้านบาท และ 3) ผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม เรามองความผันผวนดังกล่าวเป็นโอกาสลงทุนที่ดี

ธีมการลงทุนระยะสั้น 1) วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น บวกกับกลุ่มธนาคารและประกัน อาทิ BBL, KBANK, SCB, TIPH 2) หุ้นบริโภคในประเทศ CPN, CRC, CPALL, MAKRO 3) ความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน หนุนการย้ายฐานผลิตมาไทย บวกกับ AMATA, WHA, ROJNA, CCET, SMT 4) กลุ่มการเงินหรือ IPO ที่ยังขึ้นน้อย IFS, PIN, ONEE, CV, UBE, IND, NV 5) ทยอยสะสม สื่อสาร สาธารณูปโภค ADVANC, DTAC, FTREIT, WHART, GULF, GPSC, EGCO, RATCH, EASTW, WHAUP, TTW 6) กลุ่มได้ประโยชน์จากโควิด BCH, CHG, STA, STGT, SMD, WINMED อาจฟื้นช่วงสั้น แต่เราคงมุมมองระวังจากกำไรที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยชอบ RAM มากที่สุดจากราคาที่ mis-pricing 7)การได้รับอนุมัติให้ TCAP ถือ TTB เพิ่ม แต่ไม่เกิน 24.99% ทำให้ตลาดมองบวกต่อหุ้น TTB

ภาพรวมกลยุทธ์: ทรงตัว 1,630-1,650 จุด หลังกังวลโควิดผ่อนคลายลง และมาตรการของขวัญปีใหม่ ที่สร้างจิตวิทยาบวกต่อการลงทุน อย่างไรก็ตาม ตลาดอาจโยกเงินบางส่วนไปในหุ้นปลอดภัยเพื่อบริหารความเสี่ยงการระบาดของสายพันธ์โอมิครอนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงม.ค.-ก.พ.65 //หุ้นแนะนำ: TFG*, ONEE*, IND*, NV*

แนวรับ: 1,620-1,630 / แนวต้าน : 1,650-1,655 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0