SEARCH

‘ซีอีโอ’ หวัง ‘รัฐบาลใหม่’ หลังเลือกตั้งมีเสถียรภาพ ‘เร่งฟื้นศก.-ดึงลงทุน’

‘ประยุทธ์’ สั่งดูแลค่าไฟ ผู้มีรายได้น้อย 25 ล้านครัวเรือน
Nasdaq ปิดต่ำสุดในปี 2022 หลังรีบาวน์ล้มเหลว
กนง.จับตา แรงกดดัน ‘เงินเฟ้อพื้นฐาน’พุ่ง ราคาสินค้าแพงขยับวงกว้างเพิ่ม

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลใหม่มุ่งเน้นนโยบายเสรีทางการค้า ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามา ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาค (trading hub) และปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการค้า ดึงบริษัทข้ามชาติมาจดทะเบียนในไทย

โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต รวมทั้งส่งเสริมการเป็นตลาดเสรี ให้เอกชนมีเสรีภาพดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ตามกลไกตลาด

สำหรับการดำเนินธุรกิจในปี 2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีแห่งความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการ ซึ่งต้องเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจเนื่องกับหลากหลายปัจจัย อาทิ เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เข้ามามีบทบาทในการทำธุรกิจ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ วิถีการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคซึ่งหันมาใส่ใจคุณค่าของผลิตภัณฑ์และบริการที่มากขึ้น

ทั้งนี้ ส่งผลให้ทุกธุรกิจล้วนตระหนักถึงความสำคัญในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลง นำมาสู่การกำหนดนโยบายและแผนการดำเนินธุรกิจ ที่ไม่เพียงให้ความสำคัญกับผลตอบแทนการลงทุน แต่ยังต้องใส่ใจสังคม และ สิ่งแวดล้อมควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะเป็นวิถีหลักของการดำเนินธุรกิจในอนาคต

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า ภาคท่องเที่ยวเป็นหัวใจสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยเพราะ คือ จุดแข็งประเทศ รัฐบาลใหม่จึงควรให้ความสำคัญการวางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนท่องเที่ยว ทั้งอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว เช่น เรื่องวีซ่า รวมถึงเชื่อมโยงภาคท่องเที่ยวไปยังกลุ่มชาวต่างชาติที่เดินทางมาใช้ชีวิตในเมืองไทยและอยู่ยาวขึ้น

“รัฐบาลใหม่ต้องมองถึงองค์รวม การใช้ชีวิตของต่างชาติกลุ่มนี้ ทั้งเรื่องบริษัทข้ามชาติที่จะเข้ามาจัดตั้ง กลุ่มนักลงทุนที่จะเข้ามา กลุ่มที่จะเข้ามาอยู่ยาวมากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยวไปจนถึงการลงทุนในไทย เพราะไลฟ์สไตล์การเดินทางท่องเที่ยวตอนนี้ไม่เหมือนเดิม มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันไปหมด ทั้งคนที่อยากมาเที่ยว มาลงทุน และมาอยู่ยาว มาใช้ชีวิตแล้วสามารถเอ็นจอยไลฟ์สไตล์ในเมืองไทยได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีตัวเชื่อมตอบโจทย์เทรนด์เหล่านี้”

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า สรท.ต้องจับตามองต้นทุนของผู้ส่งออกอย่างใกล้ชิด รวมถึงการชำระหนี้ โดยเฉพาะคู่ค้าในต่างประเทศ รวมถึงราคาพลังงาน โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าในไทยที่ยังอยู่ในระดับที่สูง ส่งผลถึงต้นทุนในแง่ของการเงินแนวโน้วระดับสูงตามไปด้วย

โดยผู้ส่งออกต้องเตรียมรับมือในแง่ของสภาพคล่อง ต้นทุน และควรเช็คสุขภาพการเงินคู่ค้าต่างประเทศ สิ่งสำคัญที่จะเพิ่มยอดการส่งออก คือ หาตลาดรองจากตลาดหลักอย่างสหรัฐและยุโรปที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง อาทิ ตะวันออกกลาง เอเชียแปซิฟิก และ CLMV ที่ยังเติบโตได้ดี รวมถึงการเปิดประเทศจีน เป็นต้น

นอกจากนี้ หากมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. ภาคเอกชนยังหวังว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลได้รวดเร็ว มีเสถียรภาพให้เดินหน้าต่อได้ อยากให้สานต่อนโยบายหลัก คือ พิจารณาค่าไฟฟ้าครึ่งปีหลังที่ควรลดลง มีผลต่อต้นทุนส่งออก ส่วนค่าแรงต้องพิจารณาเป็นขั้นตอนที่ควรดูบริบทคู่แข่ง รวมถึงสานต่อเขตการค้าเสรี ที่ต้องเดินหน้าต่อไป

ทั้งนี้ ปี 2566 ต้องการให้ภาครัฐเข้ามาแก้ปัญหาต่างๆ อาทิ การรวมมือกับต่างประเทศ เพื่อเจรจาต่อรองการส่งออกให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า ความคาดหวังที่มีต่อรัฐบาลใหม่ ต้องการให้ตระหนักว่าแม้ภาพรวมการท่องเที่ยวไทย จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัว 70% เทียบปี 2562 แต่ในเชิงธุรกิจยังไม่ถือว่าฟื้นตัวมากนัก หลังประสบปัญหาการเงินมาตลอด 3 ปีนับตั้งแต่โควิด-19 ระบาด ทั้งยังเผชิญปัญหาอื่นๆ ซ้ำเติม โดยเฉพาะต้นทุนการดำเนินงานที่ปรับสูงขึ้นซึ่งเป็นจุดที่ผู้ประกอบการกังวลอย่างมาก อาทิ ต้นทุนค่าไฟ ต้นทุนค่าจ้างพนักงานสูงขึ้นในช่วงการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว

“อีกปัญหาสำคัญที่อยากฝากไปถึงรัฐบาลใหม่ คือปัญหา PM 2.5 เพราะปีนี้เห็นผลกระทบชัดเจนมาก แม้ยอดยกเลิกการจองห้องพักจะมีไม่มาก แต่ยอดจองห้องพักเข้ามาใหม่ก็มีไม่มากเช่นกัน หรือเช็กอินแล้วเช็กเอาต์ออกไปเลยก็มี โดยเฉพาะพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลใหม่ควรเอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหา”

ขณะที่ แนวโน้มตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติทะลักเข้าไทย เติบโตสู่ระดับ 60-80 ล้านคนต่อปีในอนาคต เพิ่มจากปี 2562 ที่มีเกือบ 40 ล้านคน สมาคมฯ ต้องการเห็นรัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญการท่องเที่ยวยั่งยืน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว ควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวให้เหมาะสม กับขีดความสามารถในการรองรับ เช่น ลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนเข้าสถานที่ลดการกระจุกตัว ควบคู่กับการกระจายนักท่องเที่ยวสู่เมืองรองมากขึ้น

แหล่งข่าว ‘ซีอีโอ’ หวัง ‘รัฐบาลใหม่’ หลังเลือกตั้งมีเสถียรภาพ ‘เร่งฟื้นศก.-ดึงลงทุน’, bangkokbiznews, 08 พ.ค. 2566

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0