ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมินเม็ดเงินใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนของคนกรุงเทพฯในปี 66 จะอยู่ที่ 12,330 ล้านบาท หรือขยายตัว 5.0% เมื่อเทียบกับตรุษจีนปีก่อน ซึ่งเป็นการกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในรอบ 3 ปี เป็นผลจากราคาสินค้าที่น่าจะปรับสูงขึ้น 3.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้คนยังระมัดระวังการใช้จ่าย โดยสำรองเงินซื้อเครื่องเซ่นไหว้เพิ่มขึ้น แต่ปรับลดการแจกอั่งเปาลง ขณะที่จำนวนคนกรุงเทพฯ ที่เข้าร่วมกิจกรรมช่วงตรุษจีนอาจเพิ่มขึ้นราว 1.5% จากปีก่อน โดยเฉพาะการกลับมาทำกิจกรรมท่องเที่ยว/ ทำบุญ/ทานข้าวนอกบ้านมากขึ้น โดยมีแรงหนุนจากโควิด-19 ที่ผ่อนคลายและมาตรการช้อปดีมีคืน อย่างไรก็ตาม หลังหมดเทศกาลตรุษจีน คาดว่าคนกรุงเทพฯจะกลับมาวางแผนใช้จ่ายอย่างรัดกุมมากขึ้น ท่ามกลางค่าครองชีพที่ยังสูง
สำหรับทิศทางราคาเครื่องเซ่นไหว้ส่วนใหญ่ยังมีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน จากต้นทุนการผลิตที่ยังสูง โดยเฉพาะผัก-ผลไม้บางรายการที่นิยมในช่วงตรุษจีน ยังมีราคาสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% เช่น กล้วยหอมทอง ส้มเขียวหวาน ผักกาดขาว ขึ้นฉ่าย เป็นต้น ขณะที่กลุ่มเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่ ราคาน่าจะปรับขึ้นราว 10% ส่วนเนื้อหมู แม้ราคาย่อลงจากปีก่อน แต่ราคาก็ยังยืนตัวสูงทำให้คนกรุงเทพฯที่เข้าร่วมกิจกรรมตรุษจีนปีนี้ ยังเผชิญปัจจัยกดดันจากราคาสินค้าที่ขยับสูงขึ้น.
แหล่งข่าว ตรุษจีนปีนี้คนกรุงใช้จ่าย 1.2 หมื่นล้าน ลูกหลานทำใจ! รับอั่งเปาซองแดงลดลง, ไทยรัฐ, 13 ม.ค. 2566
COMMENTS