นักวิเคราะหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ประเมินความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นไทยว่า นักลงทุนต่างชาติมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญในช่วงที่ผ่านมา โดยในช่วงเดือน ก.พ. ต่างชาติขายหุ้นไทยมากสุดในภูมิภาค และมากสุดในรอบเกือบ 3 ปี โดยเป็ยผลมาจากเผชิญกับแรงกดดันภายนอกทั้งประเด็นความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์, เงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ยืนระดับสูง และที่สำคัญคือการรายงานงบไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 ของบริษัทจดทะเบียนไทยที่ผิดจากที่ตลาดคาด มากขึ้นเรื่อยๆ จาก -20% ขึ้นสูระดับปัจจุบัน -40% และผิดคาดมากกว่าตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าขึ้นมาเร็วถึง 5.2%
เงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.พ. นี้สูงกว่าปกติ ถึง 1.1 พันล้านเหรียญ หรือ 3.7 หมื่นล้านบาท หรือตลาดหุ้นไทยถูกขายสุทธิสูงสุดในภูมิภาคในเดือนนี้และอีกมุมหนึ่ง คือ เป็นเดือนที่ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี นับตั้งแต่เดือน เม.ย. 63 หรือช่วงเกิด COVID-19 แรกๆ
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศยุบสภาในเดือนมีนาคมนี้ และคาดว่าจะเลือกตั้งได้ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 นั้น ตามสถิติพบว่าตลาดหุ้นไทยมักจะปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนเลือกตั้งประมาณ 3 – 6 เดือน บลจ.ทิสโก้ จึงคาดว่าการประกาศในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนหลักที่ทำให้บรรยากาศการลงทุนหุ้นไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง
แหล่งข่าว ต่างชาติขายหุ้นไทยรุนแรงสุดในรอบ 3 ปี ผิดหวังกำไรต่ำคาด ผู้จัดการกองทุนหุ้นจะฟื้นตัวก่อนเลือกตั้ง, bangkokbiznews, 27 ก.พ. 2566
COMMENTS