ประกอบกับมองว่า แนวโน้มตลาดหุ้นจีนในปีนี้ดาวน์ไซด์จำกัด เนื่องจากนโยบายภาครัฐยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง โดยยังมีปริมาณเงินอัดฉีดเข้ามาในระบบมากขึ้น ส่งผลดีต่อการอุปโภคบริโภคและบริษัทกำไรบริษัทจดทะเบียนน่าจะปรับดีขึ้น
ขณะที่ผลกระทบด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนไม่น่าจะเลวร้ายลง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังต้องสร้างการขยายตัวต่อเนื่องดังนั้นคาดว่า ในปีนี้ จีดีพีของจีนขยายตัวระดับ 5.5%และกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เติบโตระดับ 14-15%
ดังนั้นแนะนักลงทุนเริ่มทยอยเก็บหุ้นจีนตั้งแต่ปลายปีก่อน ผ่านทั้ง 2 ดัชนี A shares ซึ่งมีหุ้นอุปโภคบริโภค เฮลท์แคร์ และการศึกษา ที่ได้ประโยชน์จากมาตรการลดดอกเบี้ย และ H shares เป็นหุ้นเทคโนโลยี บริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐ เริ่มกลับมา ปรับตัวขึ้นมาแรงในช่วงต้นปีนี้ แต่หุ้นเทคโนโลยีกลุ่มนี้ยังต้องระวังความเสี่ยงทางด้านนโยบายการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ทิสโก้ กล่าวว่าตลาดหุ้นจีนในปีนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นจากปีก่อนแม้จะมีผลตอบแทนต่ำที่สุดในโลก ภายใต้นโยบายภาครัฐของจีนยังคงมีการผ่อนปรนเกณฑ์ดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่อง และมาตรการกระตุ้นเพื่อรักษาโมเมนตัมในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้เป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ลดอัตราดอกเบี้ยและอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ คาดว่าจีดีพีของจีนยังขยายตัวได้ 4-5% ในปีนี้ ขณะเดียวกันการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนทั้งสองฝ่ายมีท่าทีดีขึ้นอาจปรับลดกำแพงการค้าหรือยังคงไว้เท่าเดิม
สำหรับในช่วง 17-21 ม.ค.ที่ผ่านมานี้ ตลาดหุ้นจีน ดัชนี H shares ปรับตัวขึ้นมาเป็นบวกแล้ว3% แม้ว่าแม้ดัชนี A shares ยังทรงตัว ถือเป็นสัญญาณบวก มองเป็นโอกาสเข้าทยอยสะสมหุ้นจีนสำหรับการลงทุน ระยะ 6 เดือนถึง 1 ปีขึ้นไปได้
โดยยังเน้นการจับจังหวะลงทุนในหุ้นจีนผ่านดัชนี H shares พบว่า ราคาหุ้นอยู่ในระดับน่าสนใจ ถูกกว่าภูมิภาคอื่นๆ โดย consensus คาดการณ์ ค่า Forward P/E ปี 2565 ที่ 10.3 เท่า
แหล่งข่าว บลจ.แนะลุยเก็บหุ้นจีน กำไรบจ.โต-ดาวน์ไซด์จำกัด, bangkokbiznews, 16 ก.พ. 2565
COMMENTS