KS ยังคงคำแนะนำตามเดิม คือ ในช่วงนี้ไม่เพิ่มน้ำหนักพอร์ตการลงทุนในระดับดัชนีแถวๆ 1,700 จุด ประเมินตลาดหุ้นสัปดาห์หน้ามีโอกาสอ่อนตัว ประเมินแนวรับสำคัญ 1,665 จุด โดยมุมมองคาดตลาดจะอ่อนตัวเพราะช่วงต้น เม.ย. 65 ตลาดหุ้นโลกจะเผชิญกับ IMF Downgrade World GDP Growth สงครามรัสเซีย-ยูเครนมีโอกาสยืดเยื้อ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์คาดยังทรงตัวสูงเนื่องจากสงครามยืดเยื้อ ประเด็น Fed แม้เดือน เม.ย. ยังไม่มีการประชุม แต่ให้น้ำหนักรายงาน Fed minutes
โดยภาพรวมภาวะที่ตลาดยังกังวล Inverted Yield Curve และ ภาวะ Recession มากขึ้น KS จึงมองว่าหุ้นกลุ่ม Growth และกลุ่ม Tech จะเป็นที่พักเงิน (ทั้งฝั่งสหรัฐและฮ่องกง)
ส่วนตลาดหุ้นไทย KS ประเมินระยะถัดไป SET Index มีโอกาส Underperform เพราะส่วนใหญ่หุ้นไทยจะเป็นกลุ่ม Value แต่หุ้นกลุ่ม Growth มีโอกาส Outperform โดยแนะนำ Trading
1.) กลุ่ม Growth อาทิ COM7 และ Tech Consult อาทิ (BBIK, BE8)
2.) กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, GUNKUL, SSP, BGRIM, GPSC, SSP 3.) กลุ่ม Anti-commodities (EPG, SCGP, BGRIM, GULF, OR, AAV, BA) ตามราคาพลังงานและน้ำมันดิบโลกที่ปรับลง
ส่วนหุ้นแนะนำลงทุนในระยะกลางในช่วงเดือน เม.ย. แนะนำกลุ่มการเงิน (TIDLOR, ASK ,THANI, AEONTS, BAM CHAYO) กลุ่มเครื่องดื่ม (SAPPE, CBG, OSP) ส่วนกลุ่มที่แนะนำชะลอการลงทุน คือ กลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
แหล่งข่าว บล.กสิกรไทยชี้ 4 ปัจจัยกดดันหุ้นไทยปรับฐานในช่วงต้นเดือนเม.ย., bangkokbiznews, 03 เม.ย. 2565
COMMENTS