บล.กสิกรไทย ระบุ ปัจจัยต่างประเทศที่มีผลต่อการลงทุนช่วงนี้มี 3 ประเด็น ได้แก่
1.) การดำเนินนโยบายการเงินของ Fed โดยการแถลงของประธาน Fed ต่อสภาครองเกรสวันแรกให้ความเห็นว่า “เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง และสามารถรับมือกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณ Soft landing”
แต่ในวันที่ 2 ให้ความเห็นว่า “การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะกระทบกับตลาดแรงงาน อาจทะให้อัตราการว่างงานสูงขึ้น”
2.) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนประกาศคงเป้าหมายการเติบโต GDP Growth ปี 2565 เท่าเดิม 5.5% โดย KS ประเมินอาจจะทำให้รัฐบาลจีนเดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นทั้งการคลังและการเงินเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อให้เศรษฐกิจโตตามเป้า
โดยก่อนหน้านี้ได้ออกมาตรการ เช่น ลด RRR และการลดอัตราดอกเบี้ย ภาษีและค่าธรรมเนียม รวมถึงเร่งการใช้จ่ายของรัฐบาล ประเมินเป็นบวกต่อ หุ้น PSL, SCGP, CBG
3.) ความกังวลเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) ยังมีต่อ ล่าสุดฝั่งยุโรป S&P GlobaL รายงานดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจของยูโรโซน หลักๆ คือ ดัชนี PMI ภาคการผลิต เดือน มิ.ย. ของเยอรมนี อังกฤษ ปรับลดลงต่ำกว่าคาด และลงใกล้ระดับ 50 จุด (หากต่ำกว่า 50จุดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัวสูง)
โดยรวมทั้ง 3 ประเด็นยังเป็นแรงกดดันต่อ
– ทิศทาง Bond yields ปรับลงต่อ ลบต่อหุ้น BLA แต่จะบวกต่อหุ้นกลุ่มการเงิน (Finance) ที่ราคาหุ้นถูกกดดันก่อนหน้านี้ อาทิ SAWAD, MTC, TIDLOR, AEONTS ฯลฯ
– ราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายสินค้าแนวโน้มเป็นขาลง ทั้งน้ำมันดิบ Brent, ก๊าซธรรมชาติ, อลูมิเนียม น้ำตาล ฯลฯ KS ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่ม Anti Commodity อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า GPSC, BGRIM, PTG, SCGP, EPG แต่เป็นลบต่อหุ้น PTT, PTTEP, KSL ฯลฯ แนะนำชะลอลงทุน
แหล่งข่าว บล.กสิกรไทยห่วงเศรษฐกิจถดถอยกดดันหุ้นโลก ชูหุ้นเด่น 4 กลุ่มหนีความผันผวน, bangkokbiznews, 26 มิ.ย. 2565
COMMENTS