บล.กสิกรไทย ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (25-29 เม.ย.) จะแกว่งตัวในกรอบ 1,666 -1,705 จุด โดยปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อตลาดหุ้นโลกในระยะถัดไป คือ ถ้อยแถลงของประธาน Fed ส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินตึงตัว (Hawkish) โดยเตรียมขึ้นดอกเบี้ย 50 bps ในการประชุม Fed รอบถัดไป 3-4 พ.ค. 2565 เพื่อลดความร้อนแรงเงินเฟ้อสหรัฐ ซึ่งล่าสุด สูงสุดในรอบ 40 ปี
ล่าสุด Fed Watch ของ CME Group สะท้อนว่าตลาดคาดการประชุม Fed ในรอบ พ.ค. มีโอกาสสูงถึง 97.6% ที่ Fed จะขึ้น 50 bps ส่วนการประชุมในรอบเดือน มิ.ย. คาดโอกาส 68.3% ที่ Fed จะขึ้น 75 bps, และการประชุมรอบเดือน ก.ค. มีโอกาส 56% ที่ Fed จะขึ้น 50 bps โดยขึ้นติดต่อกันทุกรอบในการประชุม และคาดดอกเบี้ยสหรัฐ ณ สิ้นปีจะอยู่ที่ 2.75-3%
KS ประเมินว่าประเด็นเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย 50bps ในการประชุมเดือน พ.ค. ตลาดได้รับรู้ไปแล้วระดับนึง แต่ภาพของดอกเบี้ยสหรัฐที่เป็นขาขึ้น และในการประชุมรอบเดือน พ.ค. จะเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ Fed จะเริ่มปรับลดขนาดงบดุล 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ทำให้ระยะสั้นเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นสหรัฐ โดยเฉพาะกลุ่ม Technology ปรับลงแรง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ Sensitive กับดอกเบี้ยขึ้น
ประเมินว่าประเด็นเรื่อง Fed จะยังกดดันตลาดหุ้นตลอดเดือน พ.ค. โดย KS ทำการศึกษาสถิติในอดีตรอบที่แล้วในปี 2561 รอบที่ Fed ลด Balance Sheet ลง 373 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 9.3% ของยอดคงเหลือของในปี 2561 โดยพบว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้น 28 bps, ดัชนี MSCI ACWI ลดลง 11% ในปี 2561 และค่าเงินบาทอ่อนค่า
แหล่งข่าว บล.กสิกรไทย มองเฟดขึ้นดอกเบี้ยกดดันหุ้นโลกตลอดเดือนพ.ค. แนะเก็งกำไรหุ้นส่งออก-ธีมเปิดประเทศ, bangkokbiznews, 24 เม.ย. 2565
COMMENTS