การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่รวดเร็ว กระทบภาคธุรกิจจะมากหรือน้อยไม่เท่ากัน ดังนั้น หากกัลฟ์ยึดติดกับการเติบโตรูปแบบเดิมพบว่าโอกาสเติบโตยั่งยืนยากขึ้น จึงต้องเดินแผนเติบโต รักษาฐานที่มั่นเดิมในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าพร้อมรุกสู่ “ธุรกิจใหม่” (New Business) สะท้อนผ่าน “บิ๊กดีล” เมื่อปี 2564 หลังกัลฟ์ประกาศซื้อหุ้น บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH จนขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 42.25% พร้อมกับส่งทีมงานเข้าไปนั่งเป็นกรรมการ (บอร์ด) จำนวน 4 คน
จากการเข้าลงทุน “อินทัช” เมื่อปีก่อนถือเป็นการส่งสัญญาณแผนธุรกิจของ “กัลฟ์” จาก “ธุรกิจพลังงาน” กำลังมุ่งสู่ “ธุรกิจด้านเทคโนโลยี” และปี 2565 แผนธุรกิจจะชัดเจนขึ้น
“ยุพาพิน วังวิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF เล่าว่า ทิศทางแผนธุรกิจนอกจากธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ปัจจุบันขยายธุรกิจสู่ “ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล” พร้อมมองหาโอกาสธุรกิจที่บริษัทโฟกัสตลอดคือ “ธุรกิจพลังงาน – อินฟราสตรักเจอร์ – ดิจิทัล” โดยที่ไม่ใช่ “เทค คอมพานี”
โดยวางเป้าหมายอนาคตสู่โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล หรือ “ดิจิทัลอินฟราสตรัคเจอร์” สะท้อนผ่านการลงนามบันทึกความร่วมมือกับกลุ่ม “ไบแนนซ์” (Binance) “ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล” (Digital Asset Exchange) ที่มีปริมาณซื้อขายอันดับ 1 ในโลก ร่วมศึกษาและทำแผนพัฒนาธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในไทย ที่คาดว่าใช้เวลา 3-6 เดือน ศึกษาความเป็นไปได้ในคริปโทเคอร์เรนซี แพลตฟอร์ม และ ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ ร่วมกับ สิงคโปร์เทเลคอมมูนิเคชันส์ (SINGTEL) และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ลงทุนธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ในไทย
แหล่งข่าว ผ่า!! แผนบิ๊กคอร์ป ‘กัลฟ์ – ซีพี’ ลุยธุรกิจใหม่ !!, bangkokbiznews, 21 ก.พ. 2565
COMMENTS