ราคาน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความกังวลด้านอุปทาน

ราคาน้ำมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในวันศุกร์และมุ่งหน้าสู่การเติบโตรายสัปดาห์ที่สอง โดยได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรปและตะวันออกกลาง ความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ตึงตัวและการเติบโตของอุปสงค์เชื้อเพลิงทั่วโลกเพิ่มขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจดีขึ้น ราคาน้ำมัน Brent เพิ่มขึ้น 49 เซนต์หรือ 0.5% สู่ระดับ 91.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมัน West Texas Intermediate ของสหรัฐอยู่ที่ 86.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ หรือ 0.4% สัญญาทั้งสองขึ้นไปที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมในวันพฤหัสบดี ในขณะที่ธนาคารขึ้นดอกเบี้ย 3 เดือนโดยราคาเป้าหมายของ Brent อยู่ที่ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่ง Brent และ WTI คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 4% ในสัปดาห์นี้ โดยไต่ระดับเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน หลังจากที่อิหร่านผู้ผลิตโอเปกรายใหญ่อันดับสามยืนยันว่าจะแก้แค้นอิสราเอลสำหรับการโจมตีที่สังหารบุคลากรทางทหารระดับสูงของอิหร่าน

เจ้าหน้าที่ NATO เปิดเผยว่าการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในรัสเซียด้วยโดรนของยูเครนที่กำลังดำเนินอยู่ อาจทำให้กำลังการผลิตของรัสเซียหยุดชะงักมากกว่า 15% ซึ่งกระทบต่อกำลังการผลิตเชื้อเพลิงของประเทศ องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และพันธมิตรยังคงนโยบายการจัดหาน้ำมันไว้ไม่เปลี่ยนแปลง และกดดันให้บางประเทศลดกำลังการผลิต  สิ่งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความต้องการน้ำมันทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) ในไตรมาสแรก โดยตัวชี้วัดอุปสงค์ในเดือนมีนาคมอยู่ที่เฉลี่ย 101.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงกว่าประมาณการไว้ 100,000 บาร์เรลต่อวัน นักลงทุนกำลังรอรายงานการจ้างงานในเดือนมีนาคมของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐและทิศทางของนโยบายการเงิน

แหล่งข่าว Oil prices bound for second weekly gain on geopolitical tension, supply concerns โดย Reuters