นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิตเปิดเผยว่า หลังการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ภาคธุรกิจมีความคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกและโลจิสติกส์ที่ถือเป็นดาวรุ่งในปีนี้ และจะต่อเนื่องไปในปีหน้า ฉะนั้น กรมฯ คาดว่าในปีงบประมาณ 2566 ที่กรมฯ ได้รับมอบเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ที่ 2.2 ล้านล้านบาท น่าจะเป็นสามารถทำได้ตามเป้าหมายนี้
สำหรับยอดการจัดเก็บรายได้ในสองเดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 คือ ช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. 2565 กรมฯ ยังสามารถจัดเก็บได้เกินกว่าเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าก็ยังมีความเสี่ยงในเรื่องเศรษฐกิจโลกที่อาจจะถดถอย ซึ่งเราก็ไม่ประมาท โดยในช่วงนี้ที่เศรษฐกิจยังไม่มีความผันผวนมาก เราก็จะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อจัดเก็บรายได้ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าปีหน้าจะเป็นอย่างไร
สำหรับผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในเดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 หรือในเดือนต.ค.ที่ผ่านมานี้กระทรวงการคลังรายงานว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิจำนวน 2.32 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 3.36 หมื่นล้านบาท หรือ 16.9% และสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ 19.5%
โดยการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร ที่จัดเก็บภาษีในเดือนต.ค.ได้ 1.35 แสนล้านบาท โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาสูงกว่าประมาณการตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ รายได้ของส่วนราชการอื่นและกรมศุลกากรสูงกว่าประมาณการ เนื่องจากมีรายได้พิเศษจากการนำส่งทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนเข้าเป็นรายได้แผ่นดินและมีการชำระอากรขาเข้าย้อนหลังตามคำพิพากษาคดี
แหล่งข่าว สรรพากรชี้ธุรกิจค้าปลีก-โลจิสติกส์ดาวรุ่งจัดเก็บปี66, bangkokbiznews, 12 ธ.ค. 2565
COMMENTS