SEARCH

สรุปสภาวะตลาดในปี 25464

ตลาดคริปโตขึ้นแล้วแต่ยังบินไม่ได้
การคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับภาวะถดถอยของสหรัฐอาจสร้างปัญหาให้กับหุ้นมากขึ้น
Ether เสียแรงหนุนแต่ยังไม่เสียศักยภาพ

ปีที่สองของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เกือบจะน่าทึ่งพอๆ กับปีแรก หุ้นกระทิงยังคงโลดแล่น พลังงานและราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นดันเงินเฟ้อทำให้ตลาดตราสารหนี้สั่นสะเทือน ขณะที่เทคโนโลยีและอสังหาริมทรัพย์รุ่นเฮฟวี่เวทในจีนขาดทุน 1 ล้านล้านดอลลาร์

1.หุ้นโลกฟื้นตัว
มูลค่าดัชนีหุ้นโลก 50 ประเทศของ MSCI ร่วงลง 10 ล้านล้านดอลลาร์หรือ 13% จากสัญญาณการฟื้นตัวของโควิด และกระแสการกลับสู่นโยบายที่เป็นปกติของธนาคารกลาง ตรงกันข้ามกับวอลล์สตรีทที่เพิ่มขึ้น 23%
ธนาคารยุโรปทำผลงานรายปีดีที่สุดในรอบกว่าทศวรรษด้วยการเพิ่มขึ้น 33% แต่หุ้นในตลาดเกิดใหม่ร่วงลง 7% นำโดยการดิ่งลงกว่า 30% ในเทคโนโลยีของจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง

2.น้ำมัน
เศรษฐกิจเผชิญกับการขาดแคลนทรัพยากรขนาดใหญ่ท่ามกลางความพยายามจะกลับสู่สภาวะปกติ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 40% และ 50% ทำผลงานดีที่สุดในรอบ 5 ปี และราคายังคงสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด
นอกจากนี้ คูเปอร์ทำสถิติสูงสุดในเดือนเมษายนและพุ่งขึ้นเกือบ 25% เป็นปีที่สองติดต่อกัน สังกะสีก็เติบโตในอัตราใกล้เคียงกัน ขณะที่อะลูมิเนียมก็เพิ่มขึ้นกว่า 40% ทำผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 ตลาดเกษตรเติบโตด้วยข้าวโพด น้ำตาล และกาแฟ

3.หมีในร้านค้าของจีน
การปราบปรามบริษัทออนไลน์รายใหญ่ของจีน ประกอบกับวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ ฉุดมูลค่าตลาดของจีนมากกว่าล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้
อาลีบาบาร่วงลงเกือบ 50% ดัชนีหุ้นจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ลดลง 40% ขณะที่ Evergrande ร่วงลงหนักที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึน

4.พันธบัตร – ไม่มีช่วงซื้อ
อัตราเงินเฟ้อที่เร่งขึ้นและสัญญาณของธนาคารกลางขนาดใหญ่ทำให้เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับตลาดตราสารหนี้
พันธบัตรสหรัฐซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของโลกสำหรับผู้ลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐ คาดว่าจะขาดทุน 2% ขณะที่เงินยูโรที่ร่วงลง 8% ในปีนี้อาจชี้ว่าพันธบัตรของประเทศจะร่วงลงมากกว่า 9% ในรูปของเงินดอลลาร์
ในด้านบวก กลุ่มพันธบัตร ‘ขยะ’ ที่มีความเสี่ยงมากที่สุดที่มีอันดับ CCC และต่ำกว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป พันธบัตรที่เชื่อมโยงกับอัตราเงินเฟ้อก็ทำได้ดีเช่นกัน

5. หุ้น MEME
ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในวอลล์สตรีทปีนี้ไม่พ้นหุ้นที่เรียกว่า ‘meme’
หุ้น GameStop เพิ่มขึ้นเกือบ 2,500% ในเดือนมกราคม และ AMC Entertainment อีกหนึ่ง meme ก็เพิ่มขึ้นประมาณ 1,350% แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นมากถึง 3,200% ในต้นเดือนมิถุนายน
Tesla ฟื้นตัวจากการร่วงลงเมื่อต้นปี แต่กองทุนหรือหุ้นอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับนวัตกรรม เช่น ARK Innovation Fund และหุ้นพลังงานแสงอาทิตย์บางส่วน หุ้น BioTech และบริษัทจัดหากิจการเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษหรือที่เรียกว่า SPAC ลดลง 20% ถึง 30%

6.ค่าเงินตุรกี
ประธานาธิบดี Tayyip Erdogan ได้ประกาศต่อสู้กับอัตราดอกเบี้ย และผู้ว่าการธนาคารกลางคนใหม่ที่ประกาศเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ส่งผลให้เงินลีร่าร่วงลงกว่า 40% สำหรับปีนี้แม้มีการตีกลับที่ดีในสัปดาห์นี้ก็ตาม

7. ภาวะ Inflation
อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นกลายเป็นความกังวลหลักสำหรับนักลงทุนในปี 2564 เนื่องจากการระบาดใหญ่ทำให้ซัพพลายเชนทั่วโลกหยุดชะงัก ธนาคารกลางสหรัฐประกาศในเดือนนี้ว่าจะยุติการซื้อพันธบัตรเร็วขึ้น และธนาคารแห่งอังกฤษกลายเป็นธนาคารกลาง G7 แห่งแรกที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย นอกจากนี้ยังคาดว่าธนาคารกลางรายใหญ่อื่น ๆ เตรียมที่จะปรับนโยบายตามกัน รวมถึงตลาดเกิดใหม่บางประเทศก็เริ่มกลับสู่นโยบายที่เป็นปกติแล้ว

8.ชะตากรรมของตลาดเกิดใหม่
การต่อสู้ดิ้นรนของจีนและการแพร่ระบาดที่คงอยู่ทำให้หุ้น EM สูญเสีย 7% ซึ่งดูแย่ยิ่งลงอีกเมื่อเทียบกับดัชนีโลกที่เพิ่มขึ้น 13% และเพิ่มขึ้น 23% จากตลาดหุ้นวอลล์สตรีท
พันธบัตรรัฐบาล EM สกุลเงินท้องถิ่นก็ทำผลงานไม่ดีเช่นกัน โดยร่วงลง 9.7% พันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์ทำผลงานดีขึ้นเล็กน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่ผลิตน้ำมัน แต่ดัชนีสกุลเงิน EM ของ J.P. Morgan ซึ่งไม่รวมหยวนของจีนร่วงเกือบ 10%

9.ความร้อนแรงในตลาดคริปโต
การกระโดดขึ้นใกล้ 70% ของ Bitcoin อาจดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 300% ของปีที่แล้ว แม้ว่าจะมีการปราบปรามของจีนในเดือนพฤษภาคมซึ่งทำให้ราคาลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง
Dogecoin ที่เปิดตัวในปี 2013 ทะยานขึ้นกว่า 12,000% จากต้นปีจนถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤษภาคม ก่อนที่จะร่วงลงเกือบ 80% ภายในกลางเดือนธันวาคม
Non-fungible tokens(NFTs) กำลังได้รับความนิยม ภาพตัดปะแบบดิจิทัลโดยศิลปินชาวอเมริกัน Beeple ที่ขายได้เกือบ 70 ล้านดอลลาร์ในร้าน Christie’s ในเดือนพฤษภาคม ทำให้เป็นหนึ่งในสามผลงานที่แพงที่สุดโดยศิลปินที่ยังมีชีวิตที่ขายทอดตลาด

10.ความฝันเกี่ยวกับตราสารหนี้สีเขียว
การออกตราสารหนี้สีเขียวมีขึ้นและทำลายสถิติอีกครั้งโดยมีมูลค่าเกือบครึ่งล้านล้านดอลลาร์ ดัชนี MSCI หุ้นระดับโลกใน ‘ESG’ เพิ่มขึ้นมากกว่า 2% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตรฐาน ขณะที่ดัชนีหุ้นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของจีนพุ่งขึ้นมากกว่า 40% แม้ว่าภาคส่วนอื่นๆ จะลดลง

แหล่งข่าว Global Markets in 2021: Recoveries, reflation and wrecking balls โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0