หุ้นร่วง อัตราผลตอบแทนสหรัฐเพิ่มขึ้นจากข้อมูล

ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนเฝ้ารอข้อมูลถัดไปเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและสุขภาพผู้บริโภคเกี่ยวกับทิศทางของนโยบายธนาคารกลางสหรัฐ S&P 500 ลดลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดโดยได้รับแรงหนุนจากความอ่อนแอในหุ้นเทคโนโลยี ในช่วงก่อนหน้านี้หุ้นผันผวนจากค่าเงินเฟ้อผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่เพิ่มกว่าที่คาดเล็กน้อย โดยดัชนี S&P ก็เพิ่มขึ้นจากหุ้นของ Oracle (ORCL.N) หลังจากประกาศผลประกอบการรายไตรมาส ข้อมูลเงินเฟ้อเปลี่ยนแปลงความคาดหวังเล็กน้อยที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 25 จุดพื้นฐาน (bps) ในการประชุมเดือนมิถุนายน แต่ช่วยเพิ่มอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐ นักลงทุนจะได้รับข้อมูลเงินเฟ้ออีกรอบคือดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี พร้อมด้วยข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคและตลาดแรงงาน ก่อนการประชุมนโยบายของเฟดในสัปดาห์หน้า

ใน Wall Street การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนส่งผลมากจากหุ้นเทคโนโลยี (.SPLRCT) และดึง Nasdaq ให้ต่ำลง ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) เพิ่มขึ้น 37.83 จุดหรือ 0.10% เป็น 39,043.32, S&P 500 (.SPX) ลดลง 9.96 จุดหรือ 0.19% เป็น 5,165.31 และ Nasdaq Composite (.IXIC) ลดลง 87.87 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 16,177.77 อัตราผลตอบแทนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากข้อมูล CPI ที่อิงพันธบีตร 10 ปี เพิ่มขึ้น 3.5 จุดพื้นฐาน (bps) เป็น 4.19% อัตราผลตอบแทนธนบัตรอายุ 2 ปีซึ่งเคลื่อนไหวตามการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 2.9 bps เป็น 4.6282% และยังเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่สามติดต่อกันอีกด้วย ดัชนีหุ้นทั่วโลกของ MSCI (.MIWD00000PUS) ลดลง 0.39 จุดหรือ 0.05% สู่ 775.32 ดัชนี STOXX 600 (.STOXX) ปิดเพิ่มขึ้น 0.16% สูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นค้าปลีก ในขณะที่ดัชนี FTSEurofirst 300 ของยุโรป (.FTEU3) เพิ่มขึ้น 3.83 จุดหรือ 0.19%

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง 0.12% มาอยู่ที่ 102.80 โดยเงินยูโรเพิ่มขึ้น 0.21% อยู่ที่ 1.0947 ดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางยุโรปต้องการเลิกใช้เงินสดกับธนาคารต่างๆ แต่จะพยายามไม่ทำให้ระบบการเงินหรือสินเชื่อเสียหาย เงินดอลลาร์เทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้น 0.12% มาอยู่ที่ 147.82 ในขณะที่ค่าเงินสเตอร์ลิงแข็งค่าขึ้น 0.06% เป็น 1.28 ดอลลาร์ ในสกุลเงินดิจิทัล bitcoin เพิ่มขึ้น 3.10% เป็น 73,274.85 ดอลลาร์ หลังจากไต่ขึ้นติดต่อที่สามกันที่ 73,678 ดอลลาร์ น้ำมันสหรัฐปิดตัวขึ้น 2.78% อยู่ที่ 79.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ Brent ปิดที่ 84.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.58% โดยได้แรงหนุนจากปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลง รวมถึงสต็อกน้ำมันเบนซินลดลงและอุปทานเพิ่มมากกว่าที่คาด

แหล่งข่าว Stocks slip, US yields edge higher with data eyed  โดย Reuters