ออสเตรเลียปรับลดแนวโน้มการเติบโตจากภาวะเงินเฟ้อ

รัฐบาลที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งของออสเตรเลียปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเมื่อวันพฤหัสบดี โดยเตือนว่าอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นถือเป็นความท้าทายที่ไม่เคยมีมาก่อน
Jim Chalmers หนึ่งในสมาชิกของสภานิติบัญญัติกล่าวต่อรัฐสภาถึงการปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจลงครึ่งหนึ่งในปีงบประมาณนี้และปีหน้า โดยเขาคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงสุดที่ 7.35% มากกว่าที่รัฐบาลชุดก่อนคาดการณ์ไว้ที่ 4.25% ในเดือนมีนาคม
ขณะที่ในด้านกระทรวงการคลังมองว่าเศรษฐกิจเติบโต 3% ในปีจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2023 และต่ำกว่า 2% ในปี 2023/24 การว่างงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 48 ปีที่ 3.5% เป็น 3.75% ภายในกลางปีหน้า และเพิ่มขึ้นเป็น 4% ภายในกลางปี 2024 การเติบโตของค่าจ้างคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.75% ในปีหน้า จากระดับที่ซบเซาในปัจจุบัน 2.4%
อัตราเงินเฟ้อซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 5.5% จนถึงปี 2022/23 ก่อนที่จะเย็นลงเป็น 2.75% ในปี 2023/24
“เงินเฟ้อจะคลี่คลายอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ในทันที” Chalmers กล่าว ราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 6.1% ในปีถึงมิถุนายน ซึ่งเป็นอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 21 ปี
นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 โดยธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) คาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ในการประชุมในสัปดาห์หน้า
ข้อมูลในวันพฤหัสบดีแสดงให้เห็นว่ามูลค่าส่งออกพุ่งขึ้น 10.1% ในไตรมาสเดือนมิถุนายน โดยมีเพียงถ่านหินที่พุ่งขึ้น 31% เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนและสภาพอากาศเลวร้ายทำให้อุปทานทั่วโลกหยุดชะงัก