ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ขึ้นในวันพุธ (23/11/2022) แต่ดอลลาร์และน้ำมันยังร่วงลงจากรายงานผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในจีน
หุ้นยุโรปเคลื่อนไหวตามเอเชีย โดยสัญญาฟิวเจอร์ส Euro Stoxx 50 เพิ่มขึ้น 0.33% ฟิวเจอร์ส DAX ของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 0.27% และฟิวเจอร์ส FTSE เพิ่มขึ้น 0.16% ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐ S&P 500 e-minis ลดลง 0.07%
ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.4% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นสหรัฐที่เพิ่มขึ้นในชั่วข้ามคืน นอกจากนี้ดัชนียังอยู่ในทิศทางเพิ่มขึ้น 12% ในรอบเดือนนี้ หุ้นออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.63% ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวันหยุดราชการ ดัชนี Hang Seng เพิ่มขึ้น 0.46% ขณะที่ดัชนี CSI300 ของจีนลดลง 0.2%
ธนาคารกลางของนิวซีแลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุด ที่ 4.25% พร้อมเผยว่าจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อไปเพื่อคุมเงินเฟ้อ
เมื่อวันพุธจีนรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 29,157 รายในวันที่ 22 พฤศจิกายน เพื่อขึ้นจาก 28,127 รายในวันก่อนหน้า โดยโรงงานการผลิตบางรายเริ่มปิดลงแล้ว
“การดำเนินนโยบายของเฟดเป็นไปตามข้อมูลเศรษฐกิจ และคงจะต้องมีหลักฐานมากกว่า 1 อย่างเพื่อคลายวัฏจักรที่เข้มงวด” Clara Cheong นักยุทธศาสตร์การลงทุนของ JPMorgan กล่าว
ในการซื้อขายในเอเชีย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 3.7578% เมื่อเทียบกับระดับปิดของสหรัฐที่ 3.758% ในวันอังคาร อัตราผลตอบแทน 2 ปี แตะ 4.5144% เมื่อเทียบกับการปิดของสหรัฐที่ 4.517%
ดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.13% เมื่อเทียบกับเยนเป็น 141.43 เงินยูโรเพิ่มขึ้น 0.1% ในวันที่ 1.0313 ดอลลาร์ ขณะที่ ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยที่ 107.07
Tobin Gorey นักวิเคราะห์ของ Commonwealth Bank เขียนเมื่อวันพุธว่า “การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอัตราที่น้อยลงอาจไม่ใช่ปัจจัยของการมองในแง่ดี แต่เป็นสาเหตุของการมองโลกในแง่ร้ายน้อยลง”
ราคาปรับขึ้นหลังจากผู้ส่งออกรายใหญ่อย่างซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า OPEC+ จะคงการลดกำลังการผลิตและสร้างสมดุลให้กับตลาดต่อไป แต่ราคาเริ่มลดลงในช่วงเที่ยงวัน น้ำมันดิบสหรัฐร่วงลง 0.19% อยู่ที่ 80.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง 0.3% ที่ 88.08 ดอลลาร์
ทองคำลดลงเล็กน้อย โดยซื้อขายที่ 1734.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Bitcoin ฟื้นขึ้น 2.2% ในชั่วโมงซื้อขายในเอเชียอยู่ที่ 16,482 ดอลลาร์
แหล่งข่าว Asia shares gain despite rising China COVID cases โดย Reuters
COMMENTS