จีนอยู่ระหว่างการผ่อนคลายมาตรการคุมโรคระบาดที่เข้มงวด ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่เพิ่มขึ้นใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการประท้วงของประชาชนที่ไม่พอใจต่อความเข้มงวดจนเกินไป
พื้นที่เมืองขนาดใหญ่ในจีนยังคงรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่ทางกาเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาด เพื่อให้ภาคธุรกิจกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง
การประท้วงที่เกิดขึ้นนับเป็นการแสดงอารยะขัดขืนครั้งใหญ่ที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่ นับตั้งแต่สี จิ้นผิงขึ้นดำรงตำแหน่ง
รองนายกรัฐมนตรีซุน ชุนหลัน ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการควบคุมการแพร่ระบาดกล่าวว่า ความสามารถของไวรัสในการแพร่เชื้อเริ่มอ่อนตัวลง “เชื้อไวรัสไมครอนมีความอ่อนแอลง ผู้คนจำนวนมากขึ้นได้รับการฉีดวัคซีน และมีประสบการณ์ในการ ควบคุมการแพร่ระบาดแล้ว” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมกันนี้เขายังเรียกร้องให้มี “การเพิ่มประสิทธิภาพ” ที่มากขึ้นสำหรับการตรวจหาเชื้อ การรักษา และการกักบริเวณ
ไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังการประท้วงในนครกว่างโจว เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นของจีนหลายแห่งเริ่มยกเลิกมาตรการปิดเมืองชั่วคราวแล้ว ทำให้โรงเรียนบางแห่งกลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้ง รวมถึงร้านอาหาร และโรงภาพยนตร์
นอกจากนี้ ชุมชนหลายแห่งในปักกิ่งตะวันออกเริ่มอนุญาตให้ผู้ติดเชื้อที่มีอาการไม่รุนแรงสามารถกักตัวเองที่บ้านได้
เช่นเดียวกับเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของฉงชิ่งซึ่งจะอนุญาตให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิดสามารถกักตัวที่บ้านได้ตามเงื่อนไขบางประการ ขณะที่เมืองเจิ้งโจวภาคกลางของจีนประกาศให้ธุรกิจต่างๆ กลับมาดำเนินการอย่าง “เป็นระเบียบ” ได้แล้ว
หุ้นในจีนและตลาดทั่วโลกร่วงลงในช่วงต้นสัปดาห์หลังมีข่าวการประท้วงเกิดขึ้นตามพื้นที่สำคัญ ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และเมืองอื่นๆ แต่ต่อมาตลาดเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากความหวังที่ว่าการประท้วงน่าจะนำไปสู่มาตรการที่ผ่อนคลายลง
อนึ่ง แม้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการควบคุมโรคระบาดที่ดูเหมือนจะเป็นการตอบสนองต่อตวามไม่พอใจของประชาชน แต่ในด้านทางการก็กำลังหาทางสอบสวนผู้ที่มีส่วนร่วมในการประท้วงเช่นกัน
แหล่งข่าว China softens tone on COVID severity after protests โดย Reuters
COMMENTS