น้ำมันร่วงลงในวันอังคาร (03/01/2023) จากระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนหลังข้อมูลเศรษฐกิจข้อมูลเศรษฐกิจของจีนออกมาย่ำแย่ ขณะที่ IMF เตือนภาวะชะลอตัวในปีนี้
สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนต์ลดลง 25 เซนต์หรือ 0.29% สู่ระดับ 85.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐอยู่ที่ 80.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 20 เซนต์หรือ 0.25%
จีนเผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของ Caixin/Markit ลดลงสู่ 49.0 ในเดือนธันวาคมจาก 49.4 ในเดือนพฤศจิกายน โดยดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จุดเป็นเวลา 5 เดือนต่อเนื่องแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีการกลับมาทำกิจกรรมตามปกติในจีนเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากประชาชนบางส่วนในเมืองสำคัญๆ ต่อสู้กับความหนาวเย็นและการติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีโอกาสกระตุ้นเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันในขณะที่ฟื้นตัวจากการติดเชื้อมากขึ้น
Leon Li นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าว “ตลาดไม่สามารถคาดหวังการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีนหลังการล้มละลายจำนวนมากของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม อัตราการว่างงานที่พุ่งสูงขึ้น ปริมาณการออมทางสังคมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และสำคัญคือการติดเชื้อและเสียชีวิตในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา”
นอกจากนี้ยังมีข่าวการเพิ่มโควต้าการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันชุดแรกสำหรับปี 2023 จากแนวโน้มอุปสงค์ในประเทศที่ย่ำแย่ ท่ามกลางการแพร่ระบาดที่ยังไม่จบสิ้น
นอกจากนี้ Kristalina Georgieva กรรมการผู้จัดการของ IMF กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าเศรษฐกิจ สหรัฐ ยุโรป และจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทั่วโลกต่างก็ชะลอตัวพร้อมกัน ดังนั้นสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกในปีนี้น่าจะย่ำแย่กว่าปี 2022
น้ำมันขึ้นมากกว่า 2% ในวันศุกร์ โดยปีที่ผ่านมาเบรนต์และ WTI ต่างเพิ่มขึ้น 10.5% และ 6.7% แบบรอบปี
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สั่งห้ามจัดหาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เป็นเวลา 5 เดือนสำหรับประเทศที่เข้าร่วมการกำหนดเพดานราคาน้ำมันกับ G7
แหล่งข่าว Oil slides on worries on China, IMF slow-growth expectations โดย Reuters
COMMENTS