ธนาคารโลกคาดว่า GDP ทั่วโลกจะเติบโตที่ 1.7% ในปี 2023 ซึ่งเป็นอัตราเติบโตช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 1993 และตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าในรายงาน Global Economic Prospects ฉบับก่อนหน้าในเดือนมิถุนายน 2022 ที่ธนาคารโลกเคยคาดการณ์การเติบโตทั่วโลกในปี 2023 ที่ 3.0%
ขณะที่การเติบโตทั่วโลกในปี 2024 จะอยู่ที่ 2.7% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.9% ในรายงานฉบับก่อน และกล่าวว่าการเติบโตเฉลี่ยสำหรับช่วงปี 2020-2024 จะต่ำกว่า 2% ซึ่งเป็นอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่ปี 1960
สำหรับสหรัฐและยูโรโซนถูกคาดการณ์การเติบโตอยู่ที่เพียง 0.5% ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงภาวะถดถอยทั่วโลกครั้งใหม่ “ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่เปราะบาง ปัจจัยเชิงลบใหม่ๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าที่คาดไว้ การเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย การกลับมาระบาดอีกครั้ง รวมถึงความตึงเครียดทางการเมืองอาจผลักดันให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย” ธนาคารโลกกล่าวในแถลงการณ์ พร้อมเสริมว่า แนวโน้มเชิงลบนี้จะสร้างความยากลำบากเป็นพิเศษในตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาเพราะกลุ่มประเทศเหล่านั้นจะต้องต่อสู้กับภาระหนี้สินจำนวนมาก ค่าเงินที่อ่อนค่า และชะลอตัวของการเติบโตของรายได้และการลงทุนทางธุรกิจ ซึ่งอาจทำให้การเติบโตต่อปีจะอยู่ที่ 3.5% ต่อปีในอีก 2 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ รายงานของธนาคารโลกระบุว่าการเติบโตของจีนในปี 2022 ลดลงเหลือ 2.7% ซึ่งเป็นอัตราที่ช้าที่สุดเป็นอันดับสองนับตั้งแต่กลางทศวรรษ 1970 หลังจากปี 2020 จากข้อจำกัดโควิด-19
ธนาคารโลกยังระบุว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เริ่มลดลงในปี 2022 จากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่เริ่มลดลง แต่ยังเตือนว่าความเสี่ยงของการหยุดชะงักของอุปทานยังอยู่ในระดับสูง และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอาจสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากกว่าที่คาดไว้ในปัจจุบันและท้ายที่สุดจะทำให้การชะลอตัวทั่วโลกเลวร้ายลง
แหล่งข่าว World Bank warns global economy could tip into recession in 2023 โดย Reuters
COMMENTS