SEARCH

สัญญาณภาวะถดถอยดังขึ้นอีกครั้งแต่เบากว่าเดิม

น้ำมันทรงตัวหลังจากแตะระดับต่ำสุดในปี 2565
“หุ้นไทย” เผชิญแรงขายกดดัชนีปิด 1,605.98 จุด
บล.กสิกรไทย เปิด 4 ปัจจัยสำคัญกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปี

REUTERS/Tingshu Wang

การเปิดเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของจีน ราคาน้ำมันยุโรปคลายตัวลง อัตราเงินเฟ้อสหรัฐเย็นลง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจไม่ร้ายแรงและยาวนานแบบที่คาดการณ์ในช่วงที่ผ่านมา

กองทุนการเงินระหว่างประเทศปรับเพิ่มแนวโน้มการเติบโตทั่วโลกในปี 2023 ขณะที่ Citi ปรับลดโอกาสในการเกิดภาวะถดถอยทั่วโลกเหลือเพียง 30% จาก 50% ในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว

Richard McGuire หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์อัตราดอกเบี้ยของ Rabobank กล่าวว่า “ความกังวลก่อนหน้านี้เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังคลายตัวลงซึ่งกำลังส่งผลดีต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง” อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตาปัจจัยสำคัญหลายประการเพื่อดูทิศทางของภาวะถดถอยที่จะเกิดขึ้น

  • GOLDILOCKS

ดัชนีหุ้นโลก MSCI เพิ่มขึ้น 8% จนถึงปีนี้ ซึ่งถูกหนุนจาก Goldilocks ที่ว่าเศรษฐกิจโลกจะเย็นลงเพียงพอที่ทำให้เงินเฟ้อคลายตัวลงแต่ก็ไม่ทำให้ทรุดตัวลง ผลประกอบการของบรรดาบริษัทที่คาดว่าจะดีขึ้นจากฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว คาดว่าการเติบโตของกำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนระดับโลกของ MSCI จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.2% ในปีนี้ จาก 1.8% ที่คาดไว้ในปี 2022 ตามข้อมูลของ Barclays และจะโตต่อที่ 9.3% ในปี 2024

  • การเลิกจ้างพนักงาน

ตลอดช่วงที่ผ่านมา บรรดายักษ์ใหญ่อย่าง Meta, IBM และ Amazon ต่างประกาศปลดพนักงานหลายพันคน โดยส่วนหนึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่ามาจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงแพร่ระบาดซึ่งไม่ได้สะท้อนสภาะเศรษฐกิจในวงกว้าง

  • ทองแดง

ทองแดงเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยราคามันเด้งขึ้นราว 8% ในปีนี้อยู่ที่ราว 9,005 ดอลลาร์ต่อตันหลังการเปิดประเทศของจีน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ราคาทองแดงกำลังคลายตัวลงเพราะตลาดกำลังมองว่าการฟื้นตัวของจีนจะเกิดขึ้นได้ทันทีหรือไม่

  • ข้อมูลทางเศรษฐกิจ

กิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนกลับมาเติบโตอย่างน่าประหลาดใจในเดือนมกราคม ขณะที่การเติบโตของจีนก็ชะลอตัวลงน้อยกว่าที่คาดไว้ รายงานของ Citi เผยข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลกดีดตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม แม้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ยังคงคาดการณ์ถึงภาวะถดถอยในสหรัฐ

  • ผลตอบแทนพันธบัตร

ตลาดตราสารหนี้ยังคงสะท้อนถึงภาวะถดถอยที่จะเกิดขึ้น โดยเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เยอรมัน และประเทศอื่น ๆ ต่างอยู่ภาวะ deep invert ซึ่งนั้นเป็นสัญญาณของภาวะถดถอยที่จะเกิดขึ้น ขณะเดียวกันผู้ค้าเชื่อว่าเฟดจะผลักดันอัตราดอกเบี้ยสะสมอยู่ในช่วงระหว่าง 5%-5.25% จากนั้นจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อยหนึ่งครั้งภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Reuters คาดการณ์ว่าการเติบโตทั่วโลกอาจจะไม่ถึง 2% ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับที่มีความเยี่ยวโยงอย่างมีนัยสำคัญต่อการชะลอตัวครั้งสำคัญในอดีต

แหล่งข่าว Recession alarm bells are ringing, but (much) less loudly than before โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0