จากกรณีกระแสข่าวธนาคาร UBS ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ เข้าซื้อกิจการ Credit Suisse ในวงเงิน 3 พันล้านฟรังก์สวิส หรือ 3.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ Credit Suisse ต้องยื่นล้มละลาย แต่กระนั้นความกังวลของนักลงทุนยังไม่หมดสิ้นไป เนื่องจาก Credit Suisse ประกาศลดมูลค่าพันธบัตร 1.7 พันล้านดอลลาร์เหลือศูนย์ และธนาคารยังได้ลงทุนจำนวนมากในกองทุนการเงินของบริษัทในเครือด้วย
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ เปิดเผยว่า ถ้าสังเกตตลาดหุ้นที่ผ่านมา ยังเกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มธนาคารเป็นหลัก เป็นไปตามตลาดหุ้นภูมิภาคที่หุ้นธนาคารถูกโดนเทขายออกมา อย่าง ตลาดหุ้นฮั่งเส็งลงมาเกือบ 3% ซึ่งเป็นผลกระทบจากเรื่องหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ ที่ก่อนหน้ามีการออกมา นักลงทุนเริ่มกลัวจึงทำการขายออก เพราะเกรงว่าจะไม่ได้เงินคืน หากธนาคารเกิดมีปัญหา
โดยในช่วงระยะสั้นการลงทุนยังความมีความผันผวนอยู่ สถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนสูง อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นถึงปลายสัปดาห์นี้ยังมองว่า ตลาดจะสามารถกลับมารีบาวน์ได้ จากปัจจัยในประเทศ การยุบสภา การเลือกตั้ง และติดตามการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้ คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% น่าจะเป็นบวกกับตลาด
แนะนำนักลงทุน ช่วงนี้ให้รอที่โซน 1,500 จุด จะมีเหตุการณ์อะไรที่ลุกลามกว่านี้หรือไม่ ถ้าเกิดว่ายังอยู่ในระดับนี้บวกลบที่พอคุมได้ แต่ถ้ายังมีข่าวลบของธนาคารอื่นออกมาเรื่อย ๆ ก็ยังมีความซุ่มเสี่ยงที่จะหลุด 1,500 จุดได้ ถ้ามากกว่านี้จะเป็นการลุกลาม กระทบกับเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนตัวหุ้นขณะนี้ควรเน้นเป็นกลุ่ม Defensive ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว เช่นกลุ่มโรงไฟฟ้า โรงพยาบาล หรือค้าปลีกที่จะได้รับอานิสงส์จากการเลือกตั้ง แม้ว่าตลาดจะผันผวนบ้างก็ไม่ได้ลงเยอะเท่ากับเซกเตอร์อื่น ๆ หรือเท่ากับตลาดหุ้น
แหล่งข่าว โบรกเตือนหุ้นธนาคารผันผวนหนัก ผลกระทบ Credit Suisse ยังไม่จบ, bangkokbiznews, 21 มี.ค. 2566
COMMENTS