สตีเฟน เจน (Stephen Jen) และโจอานา ไฟรร์ (Joana Freire) นักเศรษฐศาสตร์จาก “Eurizon SLJ Capital Ltd” บริษัทบริหารสินทรัพย์สัญชาติอังกฤษ กล่าวผ่านบันทึกในงานวิจัยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า ค่าเงินดอลลาร์มีความเสี่ยงย่อตัวลงจากเดิม 10% เป็น 15% ในอีก 1 ปีกับ 6 เดือนเนื่องจากสถานการณ์เงินเฟ้อผ่อนคลายส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง
ทั้งสองกล่าวเพิ่มเติมในบันทึกว่า มีความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันของเฟดจะเป็นจุดสูงสุดแล้ว ดังนั้นก้าวต่อไปอาจเป็นการ “ลดต้นทุนการกู้ยืม” (Lower Borrowing Costs) หรือการลดอัตราดอกเบี้ยลง
โดยดัชนีเงินดอลลาร์ของบลูมเบิร์กย่อตัวลง 0.5% นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา และปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 หลังจากข้อมูลบ่งชี้ว่ากิจกรรมเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ อ่อนแอกว่าคาด รวมทั้งอัตราการว่างงานลดลง
ทั้งนี้ จากการวิจัยข้างต้น เจน อ้างอิงการคาดการณ์ผ่านการประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะชะลอตัวในอัตราเดียวกับที่เพิ่มขึ้นในปี 2564 และครึ่งแรกของปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ราคาผู้บริโภค (Consumer Prices) เพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ทศวรรษ 1980
สอดคล้องกับบทวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กชี้ว่าสกุลเงินดอลลาร์อยู่ในแนวโน้มขาลงแล้ว โดยมาตรวัดค่าเงินดอลลาร์ของบลูมเบิร์กชี้ให้เห็นว่าค่าเงินดังกล่าวลดลง 10% จากระดับสูงสุดของปีที่แล้วในเดือน ก.ย.
แหล่งข่าว กูรูฟันธง ‘ดอลลาร์’ ส่ออ่อนค่าลงอีก 15% เหตุสัญญาณเงินเฟ้อฟื้นตัว, bangkokbiznews, 06 เม.ย. 2566
COMMENTS