เนื่องจาก คาดว่าผู้บริโภคจะมีการปรับพฤติกรรมการในการซื้อสินค้าจะปรับตามเงินในกระเป๋า เช่น อาจโยกเงินมาซื้อสินค้าที่มีราคาถูกลง แต่มีคุณภาพใกล้เคียงกันได้ นอกจากนั้น การส่งออกรถยนต์ ก็คาดว่า ผู้ผลิตภายในประเทศจะพยายามส่งออกตามออเดอร์ที่ผู้ซื้อในประเทศสั่งมา เพื่อไม่ให้เสียตลาด
สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลนั้น ขณะนี้ ได้ขยับขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่เฟดได้ปรับดอกเบี้ยขึ้น ซึ่งคาดว่า เฟดยังคงจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกต่อเนื่อง เพื่อกดเงินเฟ้อให้ลดต่ำลงมาอยู่ที่ 2 % โดยตลอดทั้งปีนี้เฟดตั้งเป้าหมายว่า จะมีการประชุมเฟดรวม 8 ครั้งเพื่อพิจารณาในเรื่องอัตราดอกเบี้ย ซึ่งที่ผ่านมาประชุมไปแล้ว 2 ครั้ง
เขากล่าวว่า เมื่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดปรับขึ้น การประมูลพันธบัตรรัฐบาลจึงต้องดูจังหวะเหมือนกัน เพราะตอนนี้ดอกเบี้ยสหรัฐปรับขึ้นของเราก็ต้องปรับขึ้น เพื่อดึงดูดการลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาล แต่ในเวลาเดียวกันก็มีภาระในการชำระหนี้ของรัฐบาล แต่พันธบัตรรัฐบาลไทยนั้น 85% เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ จึงยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาระของรัฐบาลในเวลานี้ ส่วน อีก 15 % เป็นพันธบัตรที่อัตราดอกเบี้ยลอยตัวขึ้นลงตามอัตราตลาด
อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่า ทางเฟดก็คงจับตาปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตซ้ำเติมขึ้นมาอีก ซึ่งขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะมีธนาคารแห่งใดในสหรัฐ เกิดปัญหาขึ้นอีก ในส่วนของสถาบันการเงินในประเทศไทยนั่น ยืนยันว่า ยังมีสเถียรภาพที่เข้มแข็ง โดย BIS ratio และ ทุนสำรองระหว่างประเทศ ในระดับที่เพียงพอ รวมถึง การคลังมีเสถียรภาพ
แหล่งข่าว “อาคม”คาดส่งออกกระเตื้องตั้งแต่กลางปีนี้, bangkokbiznews, 26 เม.ย. 2566
COMMENTS