ราคาน้ำมันของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นราว 1 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีทำระดับสูงสุดในรอบปี หลังรายงานการเบิกจ่ายสต็อกและความกังวลด้านการอุปทานที่ตึงตัว
ฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐพุ่งขึ้นเหนือ 95 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ขณะที่ฟิวเจอร์น้ำมันดิบเบรนต์เพิ่มขึ้น 77 เซนต์หรือ 0.8% สู่ระดับ 97.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“ตลาดน้ำมันกำลังถูกกดดันจากการลดกำลังการผลิตของ OPEC+ ท่ามกลางอุปสงค์ที่มักเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน” Stefano Grasso ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโออาวุโสของ 8VantEdge ในสิงคโปร์กล่าว
สหรัฐเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 416.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 320,000 บาร์เรลจากการสำรวจของรอยเตอร์
ข้อมูลเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบที่ Cushing, Oklahoma ศูนย์กลางการจัดเก็บและจุดส่งมอบน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐฯ ลดลง 943,000 บาร์เรลในสัปดาห์นี้ เหลือเพียงไม่ถึง 22 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022
การเบิกจ่ายน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นนั้นเกิดขึ้นหลังการลดการผลิต 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปีโดยซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย “เราคาดว่าในระยะสั้นราคาน้ำมันจะถูกทำให้สูงขึ้นต่อไป” นักวิเคราะห์ของธนาคารแห่งชาติออสเตรเลียระบุในบันทึกย่อ
แหล่งข่าว US oil jumps $1 on crude draw, tight global supply โดย Reuters
COMMENTS