ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในวันพุธจากการคาดการณ์อุปสงค์ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นรวมถึงผู้บริโภครายใหญ่ของโลกอย่างสหรัฐอเมริกา แม้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะค่อยๆลดลงก็ไม่ได้กระทบต่อความคาดหวังที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ สัญญาฟิวเจอร์ส Brent ส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 36 เซนต์หรือ 0.44% อยู่ที่ 82.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายใน 0020 GMT สัญญาน้ำมัน West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.49% สู่ระดับ 77.94 ดอลลาร์ องค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) คาดการณ์การเติบโตของความต้องการน้ำมันทั่วโลกเพิ่มขึ้นที่ 2.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) ในปี 2567 และ 1.85 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2568 และเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปีนี้ อีกหนึ่งสัญญาณบ่งบอกถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง คือคลังน้ำมันของสหรัฐและคลังเชื้อเพลิงลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
นักวิเคราะห์ยังคงเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงฤดูร้อน แม้ว่าราคาผู้บริโภคสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างมั่นคงในเดือนกุมภาพันธ์จากต้นทุนน้ำมันและที่เก็บน้ำมันสูงขึ้น บ่งบอกถึงการลดลงของอัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำหนุนความต้องการน้ำมัน ข้อมูล CPI ที่เพิ่มขึ้นเกินคาดไม่ได้กระตุ้นให้มีการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยใหม่เหมือนเมื่อเดือนที่แล้ว และยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายประมาณเดือนมิถุนายน ราคาน้ำมันอยู่ภายใต้แรงกดดันในช่วงก่อนหน้า หลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐได้เพิ่มการผลิตน้ำมันในประเทศ แต่ราคาที่ลดลงนั้นถูกจำกัดด้วยการลดกำลังการผลิตและโรงกลั่นของ OPEC+ ที่ยังคงชะลอตัวทั่วโลก และจากการโจมตีด้วยโดรนในรัสเซีย
แหล่งข่าว Oil prices up on strong US demand, Fed signals in focus โดย Reuters
COMMENTS