การซื้อหุ้นในประเทศของบริษัทต่างๆในสหรัฐ ผ่านการซื้อคืนหุ้นและการเข้าซื้อกิจการของบริษัทจะเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีที่ 625 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งเท่ากับปริมาณกองทุนรวมและกองทุนบำนาญ Goldman Sachs กล่าว การซื้อหุ้นคืนที่เพิ่มขึ้นและการเติบโตอย่างต่อเนื่องในการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) จะเป็นแรงผลักดันในความต้องการซื้อหุ้นของบริษัท ธนาคารวอลล์สตรีทคาดว่าบริษัทในดัชนี S&P 500 (.SPX) จะเปิดการซื้อหุ้นคืนเพิ่ม 13% เป็น 925 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ และจากนั้นจะอยู่ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีหน้า อย่างไรก็ตามนคาดว่าจะมีการชดเชยมาจากกองทุนรวมและกองทุนบำเหน็จบำนาญที่ขายหุ้น 300 พันล้านดอลลาร์และ 325 พันล้านดอลลาร์ โดยจะเกิดขึ้นจากนักลงทุนที่ไปซื้อขายในกองทุนดัชนีแบบปิดและกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) ในขณะที่กองทุนบำเหน็จบำนาญจะหมุนเวียนเงินทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า เช่น พันธบัตร
นอกจากนี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์คาดการณ์ว่าจะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นสหรัฐมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ ตรงกันข้ามกับปีที่แล้วที่มีการซื้อหุ้นมูลค่า 179,000 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนภายในประเทศทำให้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นอกจากบริษัทเอกชนแล้ว ครัวเรือนสหรัฐจะเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่จะเป็นผู้ซื้อหุ้นในประเทศ มูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งเปลี่ยนสถานะเป็นผู้ขายในปี 2566 ซึ่งเป็นเจ้าของสินทรัพย์ในตลาดเงินมีมูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ หมายความว่ามีเงินทุนเพียงพอ แต่โกลด์แมนเตือนว่าการที่มีสินทรัพย์ที่จูงใจและการจัดสรรหุ้นที่สูงขึ้นอาจเป็นอุปสรรคต่อการซื้อหุ้นของบริษัท ผ่านการซื้อคืนและ M&A จะแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีในปี 2567
แหล่งข่าว U.S. companies’ stock purchases via buybacks, M&A to hit 6-year high in 2024, Goldman says โดย Reuters
COMMENTS