ดาวโจนส์และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดตลอดกาลในวันพุธโดยได้รับแรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีก รวมถึง Walgreens และ Nike และความกังวลต่อ Omicron ที่คลายตัวลง
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 6 วันทำการติดต่อกัน ถือเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เปิดรอบ 7 เซสชั่นตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคมถึง 15 มีนาคมปีนี้
การขาดดุลการค้าสิงค้าของสหรัฐฯ พุ่งสูงสุดที่เคยมีมาในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์แต่การแพร่ระบาดกลับจำกัดการใช้จ่ายของชาวอเมริกัน
Jay Hatfield ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Infrastructure กล่าวว่า “ตลาดเริ่มรับรู้ว่า Omicron ไม่สามารถทำให้คนไข้ล้นโรงพยาบาลได้” ถึงกระนั้นเขากล่าวว่าความกังวลต่อ Omicron ยังคงกินเวลาไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน
ดัชนีสายการบินของ S&P 1500 ลดลง เดลต้าแอร์ไลน์และอลาสก้าแอร์กรุ๊ปยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวบินอีกครั้งในวันอังคารเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในสหรัฐที่เพิ่มขึ้น
ตามข้อมูลเบื้องต้น ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 6.59 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 4,792.94 จุด ขณะที่ Nasdaq Composite ลดลง 16.15 จุด หรือ 0.10% สู่ 15,765.57 ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 90.95 จุดหรือ 0.25% เป็น 36,491.04
ในขณะที่ปี 2564 ดัชนีหุ้นหลักของสหรัฐกำลังเดินหน้าสู่การเพิ่มขึ้นเป็นปีที่สามติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเงินครั้งประวัติศาสตร์
จุดโฟกัสในปีหน้าจะเปลี่ยนไปสู่เส้นทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอันเนื่องมาจากปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
แหล่งข่าว Dow, S&P close at record highs as Omicron worries ease โดย Reuters
COMMENTS