SEARCH

ราคาน้ำมันปิดที่ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังกลุ่ม OPEC+ คงผลผลิตเดือน ก.พ.

ตลาดสหรัฐแตะจุดพีคของวิกฤต
ราคาน้ำมันพุ่งจากความกังวลด้านอุปทานท่ามกลางความไม่สงบในคาซัคสถาน
ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีร่วงลงอีก

ฟิวเจอร์สเบรนต์ปิดขึ้น 1.02 ดอลลาร์หรือ 1.3% ที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เกือบกลับสู่ระดับที่อยู่ที่ 26 พ.ย. น้ำมันดิบ WTIของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 91 เซนต์หรือ 1.2% สู่ 76.99 ดอลลาร์
Bjornar Tonhaugen หัวหน้าฝ่ายตลาดน้ำมันของ Rystad Energy กล่าวว่า “ตลาดน้ำมันอยู่ในช่วงขาขึ้นในวันนี้ อันเป็นผลมาจากการมุมมองเชิงบวกจากการประชุม OPEC+ ประจำเดือนวันนี้”

OPEC+ มีมติที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันตามแผนเดิมที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน (bpd) ในเดือนกุมภาพันธ์ สะท้อนถึงความกังวลต่ออุปสงค์ที่เริ่มคลี่คลายลง
สต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ถูกคาดการณ์ว่าจะลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกันตามการสำรวจนักวิเคราะห์โดย Reuters

ในสหราชอาณาจักร ผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากโรคโควิด-19 มีอาการรุนแรงน้อยกว่าก่อนหน้านี้ ขณะที่อยู่ในฝรั่งเศส รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวว่าภาคส่วนบางภาคต้องหยุดชะงักจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของผู้ติดเชื้อ Omicron พร้อมคงคาดการณ์การเติบโตของ GDP 4% ในปีนี้

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนกลุ่ม OPEC+ อาจต้องเปลี่ยนแนวทางการตัดสินใจ หากความตึงเครียดระหว่างตะวันตกและรัสเซียเหนือยูเครนลุกลามและกระทบต่อการจัดหาเชื้อเพลิง หรือหากการเจรจานิวเคลียร์ของอิหร่านกับมหาอำนาจใหญ่มีความคืบหน้า ซึ่งจะทำให้การคว่ำบาตรน้ำมันสิ้นสุดลง แม้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่าการเจรจากับอิหร่านได้แสดงให้เห็นความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย และสหรัฐฯ หวังว่าจะสานต่อในสัปดาห์นี้

บริษัทน้ำมันแห่งรัฐของลิเบียกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่าผลผลิตน้ำมันจะลดลง 200,000 บาร์เรลต่อวันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เนื่องจากการบำรุงรักษาท่อส่งน้ำมันหลัก

อย่างไรก็ตาม Capital Economics คาดว่า OPEC+ ยังคงเพิ่มการผลิตต่อไปในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าและการเติบโตของอุปสงค์จะอยู่ในภาวะปกติ ทั้งนี้ การคาดการณ์สิ้นปี 2565 ของ Capital Economics สำหรับน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

แหล่งข่าว Oil ends up at $80/bbl as OPEC+ sticks with Feb output hike โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0