SEARCH

‘เงินบาท’ วันนี้เปิด’อ่อนค่า’ที่33.30บาทต่อดอลลาร์

เจ.พี.มอร์แกน ชี้ ‘การชำระเงินดิจิทัล’ อาจมีความจำเป็นในอนาคต แม้คนใช้คริปโทฯ ลดลง
“บล.กสิกรไทย” มองตลาดหุ้นไทยเดือนมิ.ย. ยังผันผวน เผชิญ “6 ปัจจัยกดดัน”
เปิดโผ 10 อันดับหุ้นต่างชาติซื้อสูงสุด PTTEP ครองแชมป์ หลังน้ำมันดิบพุ่งแรง

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้(28ม.ค.) ที่ระดับ 33.30 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลง จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.20 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ33.20-33.40 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท เราคงมองว่า เงินบาทมีแนวโน้มผันผวนและอาจอ่อนค่าลง หลังเงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ sentiment การลงทุนในตลาดไม่สดใส อาจหนุนให้นักลงทุนต่างชาติทยอยขายทำกำไรหุ้นไทยได้บ้าง แต่เราก็มองว่า เงินบาทจะไม่อ่อนค่าไปมากนัก เพราะตลาดหุ้นไทยยังมีสัดส่วนหุ้นในกลุ่ม Cyclical ทั้งกลุ่มพลังงานและการเงินที่มาก ในขณะที่หุ้นกลุ่มเทคฯ มีไม่เยอะ ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังได้รับอานิสงส์จากธีมการลงทุนหุ้น Cyclical ต่อได้ ทั้งนี้ แนวต้านของเงินบาทอาจอยู่ในโซน 33.30-33.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเราคาดว่าจะเห็นฝั่งผู้ส่งออกต่างทยอยขายเงินดอลลาร์มากขึ้น

ตลาดการเงินโดยรวม โดยเฉพาะในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงผันผวนและเผชิญแรงเทขายจากความกังวลแนวโน้มเฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยได้มากกว่าคาด ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวลดลงกว่า -1.40% ส่วนดัชนี S&P500 ย่อตัวลง -0.54% ซึ่งจะเห็นได้ว่าผู้เล่นในตลาดฝั่งสหรัฐฯ ยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยง โดยเรามองว่า ตลาดฝั่งสหรัฐฯอาจต้องรอให้ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนประกาศออกมาพอสมควร เช่น เกิน 70% ก่อน ซึ่งถ้าหากผลประกอบการออกมาเติบโตต่อเนื่องและดีกว่าคาด ก็อาจช่วยพยุง sentiment ของตลาดให้ทยอยกลับมาเปิดรับความเสี่ยงได้เช่นกัน

ส่วนในฝั่งยุโรป ดัชนี STOXX50 ของยุโรป ปรับตัวขึ้นต่อราว +0.49% หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่ม Cyclical อาทิ กลุ่มการเงินและพลังงาน อาทิ Eni +2.4%, Santander +2.1% ในขณะที่ หุ้นเทคฯ ยุโรปพลิกกลับมาปรับตัวลงหนัก ตามหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ นำโดย SAP -6.0%, ASML -1.3% ในระยะสั้นนี้ นักลงทุนควรระมัดระวัง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่อาจบานปลายสู่สงคราม อาจยังคงกดดันให้ตลาดหุ้นยุโรปผันผวนต่อได้ อย่างไรก็ดีเรามองว่า หากตลาดหุ้นยุโรปมีการปรับฐานลงมาต่อ ก็จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนทยอยเข้าสะสมการลงทุนในยุโรปเพื่อรอลุ้นการฟื้นตัวเศรษฐกิจหลังการระบาดโอมิครอนมีสัญญาณว่าจะเริ่มสงบลงได้

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะจับตารายงานข้อมูลเงินเฟ้อ PCE ในฝั่งสหรัฐฯ โดยคาดว่า เงินเฟ้อทั่วไป PCE ของสหรัฐฯในเดือนธันวาคมมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นแตะระดับ 5.8% ซึ่งปัญหาเงินเฟ้อที่อาจอยู่ในระดับสูงนานกว่าคาด ทำให้เฟดเริ่มส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนก็อาจเริ่มมีผลต่อตลาดการเงินมากขึ้น หลังจากที่ตลาดได้รับรู้ผลการประชุมเฟดล่าสุดไปแล้ว โดยหากผลประกอบการสามารถขยายตัวดีขึ้นกว่าคาด ก็อาจพอช่วยพยุง sentiment ของตลาดได้บ้าง แต่โดยรวมตลาดอาจยังคงผันผวนเนื่องจากยังคงมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญคือ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

แหล่งข่าว ‘เงินบาท’ วันนี้เปิด’อ่อนค่า’ที่33.30บาทต่อดอลลาร์, bangkokbiznews, 28 ม.ค. 2565

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0