SEARCH

เส้นบอนด์ยีลด์ของสหรัฐฯ แบนราบ: ทำไมคุณควรสนใจสิ่งนี้

ดอลลาร์อ่อนค่าทำให้ยูโรเข้าใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน
ความผันผวนส่งเงินเข้ากองทุนป้องกันความเสี่ยงสูงสุดในรอบ 7 ปี
ธนาคารรัสเซียเผชิญกับการกีดกันในการคว่ำบาตรรอบใหม่

กราฟบอนด์ยีลด์ของสหรัฐฯ คืออะไร?
กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ให้เงินสนับสนุนด้านงบประมาณของรัฐบาลกลางโดยการออกตราสารหนี้รูปแบบต่างๆ ต่อตลาดการคลังมูลค่า 23 ล้านล้านดอลลาร์ประกอบด้วยพันธบัตรที่มีระยะเวลาครบกำหนดตั้งแต่ 1 เดือนถึง 1 ปี และ 2 ปีถึง 10 ปี รวมถึง 20 ปีและ 30 ปี โดยเส้นกราฟบอนด์ยีลด์จะแปลงผลตอบแทนทั้งหมด

เส้นโค้งควรเป็นอย่างไร?
โดยปกติ เส้นโค้งจะลาดขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดหวังผลตอบแทนที่มากขึ้นสำหรับการรับความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะลดผลตอบแทนพันธบัตรที่มีอายุยาวนาน นั่นหมายอายุ 10 ปีมักจะให้ผลตอบแทนมากกว่าธนบัตร 2 ปีเนื่องจากมีระยะเวลานานกว่า ผลตอบแทนจะเคลื่อนผกผันกับราคา

เส้นโค้งที่ชันขึ้นมักจะส่งสัญญาณถึงความคาดหวังของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เส้นโค้งที่ราบเรียบอาจมีความหมายตรงกันข้าม: นักลงทุนคาดหวังว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้และสูญเสียความมั่นใจในแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจ

เหตุใดเส้นโค้งจึงราบเรียบในตอนนี้
อัตราผลตอบรัฐบาลสหรัฐฯ ในระยะสั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้ สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีอายุยืนยาวเคลื่อนไหวช้าลง ท่ามกลางความกังวลว่านโยบายที่เข้มงวดอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ด้วยเหตุนี้ รูปร่างของเส้นอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังจึงราบเรียบ ส่วนต่างที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดอย่างพันธบัตรอายุ 2 และ 10 ปี แสดงให้เห็นช่องว่างที่จุดพื้นฐาน 47 จุด ซึ่งต่ำกว่าจุดปิดในปี 2564 ที่ 30 จุด

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี ซึ่งติดตามการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.54% จาก 0.73% ณ สิ้นปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้น 110% ขณะที่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 2.01% จาก 1.5%

เส้นโค้งที่กลับตัวหมายถึงอะไร และจะเกิดอะไรขึ้น?
นักลงทุนและนักยุทธศาสตร์บางคนเริ่มคาดการณ์ว่าการกลับตัวของเส้นโค้งอาจเกิดขึ้นทันทีในปีนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณไม่ดี ซึ่งเคยเกิดขึ้นก่อนนี้ในปี 2498 และพ่วงด้วยภาวะถดถอยนานถึง 24 เดือน และครั้งล่าสุดคือในปี 2562 ในปีต่อมา และต่อมาเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งแม้ส่วนใหญ่มาจากการแพร่ระบาดก็ตาม

แหล่งข่าว The U.S. yield curve has been flattening: Why you should care data โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: