หลังจากที่ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสูงสุดในหนึ่งวันนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020 และน้ำมันร่วงลง 13% หุ้นโลกผันผวนตามการประชุมในวันพฤหัสบดีระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครนและรัสเซีย
ดูเหมือนว่าจะไม่มีความเชื่อมั่นอยู่เบื้องหลังผลกำไรมากนัก โดยตลาดซื้อขายล่วงหน้าของยุโรปนั้นสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และจนถึงตอนนี้วอลล์สตรีทก็มีแนวโน้มที่จะเปิดต่ำลง ราคาน้ำมันกำลังพยายามฟื้นตัวเช่นกันหลังจากการร่วงลงของวันพุธซึ่งได้รับแรงหนุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งไม่สามารถจัดหาอุปทานเพิ่มเติมใน OPEC+
ตลาดยุโรปอยู่ในภาวะชั่งน้ำหนักก่อนการประชุมของธนาคารกลางยุโรป ก่อนรัสเซียจะบุกยูเครน ECB กำลังจะประกาศยุติมาตรการกระตุ้นการพิมพ์เงินและเปิดทางให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ตอนนี้ ขณะที่ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับรัสเซียกำลังแย่ลงทุกวัน อัตราเงินเฟ้อในกลุ่มก็มากกว่าเป้าหมาย 2% ทวีความรุนแรงขึ้นจากค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลง
นอกเหนือจากการประชุม ECB ในแฟรงก์เฟิร์ต ผู้ค้าจะจับตาการประชุมผู้นำของสหภาพยุโรปจะเริ่มต้นขึ้นในตอนกลางวัน พวกเขาจะประกาศแผนการที่จะแบนกลุ่มจากพลังงานของรัสเซีย
ในสหรัฐอเมริกาอัตราเงินเฟ้อในเดือนกุมภาพันธ์คาดการณ์ไว้ที่ 7.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าระดับสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษของเดือนมกราคมที่ 7.5% ราคาน้ำมันเบนซินของสหรัฐก็พุ่งสูงขึ้น
บริษัทต่างชาติยังคงหนีออกจากรัสเซีย อาทิ Rio Tinto, Sony ของญี่ปุ่นและ Nintendo ล่าสุดประกาศยุติกิจการ ซึ่งทั้งหมดนี้มีค่าใช้จ่ายแน่นอน ตัวอย่างเช่น McDonald’s กล่าวว่าการปิดร้านอาหารรัสเซียชั่วคราวจะมีค่าใช้จ่าย 50 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน
ความเคลื่อนไหวสำคัญในตลาดในวันพฤหัสบดี:
– ราคาขายส่งของญี่ปุ่นพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ อ่านเพิ่มเติม
– การสำรวจที่อยู่อาศัย RICS
– การประชุม ECB
– ดัชนี CPI/รายงานว่างงานของสหรัฐ
– การประมูลพันธบัตรอายุ 30 ปีของสหรัฐ
– เปรูมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 bps
แหล่งข่าว Morning Bid: ECB, Inflation, Oil โดย Reuters
COMMENTS