SEARCH

ส่องหุ้นรับอานิสงส์ขึ้น”ค่าไฟ”แพงสุดเป็นประวัติการณ์

น้ำมันร่วงหลังปัญหาภูมิรัฐศาสตร์คลาย ความกังวลต่อการแพร่ระบาดในจีน
ททท.ตั้งเป้าปี 65 ปั้นรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท
รอยเตอร์โพลชี้เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 75 จุด

ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงหน้าร้อนอย่างเป็นทางการ อุณหภูมิทั่วประเทศพุ่งสูงปรี๊ด! ตั้งแต่ต้นฤดู หลายพื้นที่ได้เห็นตัวเลขทะลุ 40 องศาเป็นที่เรียบร้อย และแม้ว่าอาการร้อนจะอยู่คู่กับเมืองไทยมาโดยตลอด แต่ถ้ามันร้อนเกินไปก็คงไม่ดี

เพราะอาจนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ มากมาย ทั้ง “ฮีทสโตรก” หรือ “ลมแดด” ที่เกิดจากร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป ระบายความร้อนไม่ทัน ทำให้ร่างกายขาดน้ำ หรือ “พิษสุนัขบ้า” เป็นอีกโรคที่มักมาพร้อมกับหน้าร้อน

ที่สำคัญนอกจากจะ “ร้อนกาย” ยัง “ร้อนใจ” ด้วย เพราะอาการร้อนๆ แบบนี้ หลายคนมักจะหงุดหงิด อารมณ์เสียได้ง่าย ซึ่งหากควบคุมตัวเองไม่ได้ เสี่ยงที่จะมีการกระทบกระทั่ง เกิดเหตุทะเลาะวิวาทขึ้นได้

อีกหนึ่งสิ่งที่คนไทยต้องเตรียมไว้เลยสำหรับหน้าร้อนปีนี้ คือ เงินในกระเป๋าที่จะต้องควักมาจ่ายค่าไฟ ซึ่งปกติหน้าร้อนค่าไฟก็แพงอยู่แล้ว แต่ปีนี้จะแพงขึ้นอีก เพราะกำลังจะมีการปรับขึ้นค่าไฟรอบใหม่

โดยล่าสุดคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) มีมติให้ปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนพ.ค.-ส.ค. นี้ ในอัตรา 24.77 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 23.38 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 4.00 บาทต่อหน่วย สูงสุดเป็นประวัติการณ์

สืบเนื่องมาจากผลกระทบสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ราคาพลังงานทั้งโลกพุ่งกระฉูด ขณะที่ปัจจัยในประเทศถูกกดดัน หลังก๊าซธรรมชาติ (LNG) ในอ่าวไทยลดลงในช่วงปลายสัมปทาน

ซึ่งการปรับขึ้นค่าไฟครั้งนี้เป็นรอบที่ 2 ของปี หลังงวดเดือนม.ค. – เม.ย. 2565 มีการปรับขึ้น Ft 16.71 สตางค์ต่อหน่วย จากติดลบ 15.32 สตางค์ต่อหน่วยในงวดก่อนหน้า มาอยู่ที่ 1.39 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 3.78 บาทต่อหน่วย

แหล่งข่าว ส่องหุ้นรับอานิสงส์ขึ้น”ค่าไฟ”แพงสุดเป็นประวัติการณ์, bangkokbiznews, 20 มี.ค. 2565

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0