หุ้นเอเชียร่วงลงจากความกลัวการเติบโตทั่วโลก

ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นร่วงลง 2.3% ลดลง ดัชนีออสเตรเลียลดลง 1.6% หุ้นฮ่องกงลดลง 3.3% และบลูชิปจีนแผ่นดินใหญ่ลดลง 1% Nikkei ลดลง 2.5%

บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่จดทะเบียนในฮ่องกงได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยดัชนีร่วงลง 5% ในเช้าวันพฤหัสบดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้น Tencent ร่วงลงมากกว่า 7% หลังจากรายงานการเติบโตของรายได้ที่ทรงตัวในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวสู่สาธารณะในปี 2004

ในชั่วข้ามคืน วอลล์สตรีทถูกกดดันจากรายงานผู้ค้าปลีก หุ้นของ Target ร่วงลง 24.88% ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ลดลงในหนึ่งวันที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987 ในวันพุธ Nasdaq ร่วงลงเกือบ 5% ขณะที่ S&P 500 ลดลง 4%

Hebe Chen นักวิเคราะห์ตลาดของ IG กล่าวว่า การเด้งกลับในวันอังคารได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็น ‘มุมมองที่ดีเกินจริง’ และต้องบอกว่าความกังวลเรื่องเงินเฟ้อไม่เคยหมดไปตั้งแต่เราก้าวเข้าสู่ปี 2022

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.05% เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก ในทางกลับกัน เยนร่วงลง 0.3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์

ข้อมูลแสดงให้เห็นเมื่อวันพุธว่าอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษเพิ่มขึ้นเป็นอัตราสูงสุดต่อปีนับตั้งแต่ปี 1982 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของแคนาดาเพิ่มขึ้นเป็น 6.8% เมื่อเดือนที่แล้ว

Hafeez บอกกับ Reuters Global Markets Forum ว่า “หุ้นอาจมีการเด้งกลับในระยะสั้นเหมือนช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ภาพรวมคือหมดยุคของบอนด์ยีลด์ต่ำ และเรากำลังเปลี่ยนไปสู่สภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นซึ่งจะกดดันตลาดที่ได้ประโยชน์จากผลตอบแทนต่ำโดยเฉพาะหุ้น”

ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ 2.9076% อัตราผลตอบแทนสองปีแตะ 2.6756%

น้ำมันพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดีจากความกลัวที่ค้างคาเกี่ยวกับอุปทานทั่วโลกที่ตึงตัว เบรนต์เพิ่มขึ้น 1% เป็น 110.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 110.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทองคำปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยที่ 1816.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แหล่งข่าว Asian shares tumble as global growth fears mount โดย Reuters