Tesla, Nvidia และ Meta Platforms ต่างเพิ่มขึ้นมากกว่า 4% ส่งผลให้ S&P 500 และ Nasdaq ปิดบวก ขณะที่ Amazon ขึ้น 3.1% และ Apple เพิ่มขึ้น 1.7%
ดัชนี S&P 500 จาก 11 รายการเพิ่มขึ้น 10 รายการ นำโดย Consumer Discretionary เพิ่มขึ้น 3.03% ตามมาด้วยหมวด Materials เพิ่มขึ้น 2.69%
หุ้นสหรัฐฟื้นตัวจากการลดลงก่อนหน้านี้หลังจากที่ Lael Brainard รองประธานเฟดเผยว่าพร้อมหนุนขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกอย่างน้อย 50 จุดพื้นฐาน และอาจไม่มีการหยุดขึ้นชั่วคราวในเดือนกันยายน หากแรงกดดันด้านราคาไม่ลดลง
“ความผันผวนเกิดขึ้นในวงกว้าง โดยที่หุ้นเป็นตัวประกันโดยภาวะเงินเฟ้อ และจนกว่าเงินเฟ้อจะอยู่ภายใต้การควบคุม ความผันผวนก็มีแนวโน้มที่จะยังคงสูง” เทอร์รี แซนด์เวน หัวหน้านักยุทธศาสตร์ด้านตราสารทุนของ U.S. Bank Wealth Management กล่าว
S&P 500 ลดลงประมาณ 13% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในต้นเดือนมกราคม ดัชนี Philadelphia Semiconductor พุ่งขึ้น 3.6% สู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน
ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ ดัชนี S&P 500 ขึ้น 1.84% เพื่อสิ้นสุดเซสชั่นที่ 4,176.82 จุด ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 2.69% อยู่ที่ 12,316.90 จุด ขณะที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.33% เป็น 33,248.28 จุด
Microsoft เพิ่มขึ้น 0.8% แม้ปรับลดประมาณการกำไรและรายได้ในไตรมาสที่สี่ Hewlett Packard Enterprise Co ร่วง 5.2% หลังจากที่บริษัทให้การคาดการณ์ทั้งปีที่ต่ำกว่าคาดจากความผันผวนของค่าเงินและการแบนรัสเซีย
S&P 500 ทำจุดสูงสุดใหม่และ 29 จุดต่ำสุดใหม่ Nasdaq ทำสถิติสูงสุดใหม่ 33 จุดและระดับต่ำสุดใหม่ 107 จุด
ปริมาณการแลกเปลี่ยนในสหรัฐค่อนข้างเบา โดยมีการซื้อขาย 10.7 พันล้านหุ้น เทียบกับเฉลี่ย 13.3 พันล้านหุ้นในช่วง 20 เซสชันก่อนหน้า
แหล่งข่าว Wall Street ends sharply higher, led by Tesla and Nvidia โดย Reuters
COMMENTS