บล.กสิกรไทย ประเมินตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 จะแกว่งตัวลง (Sideway Down) จากตัวเลขเศรษฐกิจที่คาดว่ายังชะลอตัว ประกอบกับยังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้มีแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยแทนอย่างตลาดพันธบัตร
เห็นได้จาก Bond Yields สหรัฐปรับลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Bond Yields อายุ 2 ปี หลุด 3% อีกครั้ง จากช่วงกลางเดือน มิ.ย.ที่ทำจุดสูงสุดที่ 3.45% เช่นเดียวกับ Bond Yields อายุ 10 ปี ปรับลงมาอยู่ที่ 3.02% จากกลางเดือน มิ.ย.ที่ทำจุดสูงสุดที่ 3.5%
ส่งผลให้ US 10-2 Year Treasury Yield Spread ลงมาใกล้ 0 มาอยู่ที่ 0.6 bps หรือใกล้กลับมา Inverse หรือติดลบอีกครั้ง ซึ่งจากสถิติช่วงที่ US Yield spread เข้าใกล้ศูนย์หรือติดลบ ตลาดจะยังกังวลต่อว่าเศรษฐกิจของสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือ Recession ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า โดย KS ประเมินตามทฤษฎีในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย Sector หุ้นที่จะ Outperform หลักๆ กลุ่ม Defensive ได้แก่
1.) กลุ่ม Healthcare กลุ่มโรงพยาบาล (คำแนะนำปัจจุบัน KS แนะนำลงทุน โรงพยาบาลเงินสดได้อานิสงค์เปิดเมือง อาทิ BDMS, BH โรงพยาบาลที่ได้ประโยชน์จีนเปิดประเทศ อาทิ EKH
2.) กลุ่ม ICT แนะนำลงทุน TRUE, DTAC
3.) กลุ่ม Consumer Staples อาทิ CPALL
4.) กลุ่ม Utilities กลุ่มโรงไฟฟ้าแนะนำ BGRIM, GPSC, GULF
ส่วนกลุ่มที่จะ Underperform ช่วงเศรษฐกิจถดถอย อาทิ กลุ่ม Global Play อาทิ กลุ่มปิโตรเคมี, กลุ่มส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มส่งออกยานยนต์ แนะนำเก็งกำไรในช่วงสั้น แต่ชะลอการลงทุนระยะยาว
อย่างไรก็ตามประเมินว่าตลาดหุ้นช่วงไตรมาส 4 ปี 2565 จะเริ่มฟื้นตัวเนื่องจากมองว่าประเด็นเงินเฟ้อจะลดแรงกดดันลง โดยคาดว่าเงินเฟ้อจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.ค. ประเมินว่ายังผันผวน แนวรับสำคัญของ SET Index รอบนี้อยู่ที่บริเวณ 1,500 จุด และ 1,535 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,585 จุด และ 1,616 จุด โดยปัจจัยบวกทางพื้นฐานที่หนุนตลาดหุ้นช่วงนี้ คือ ความคาดหวังจากภาคท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวหลังจากจีนเปิดเมืองและเริ่มผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศ แต่ประเด็นที่ต้องติดตามซึ่งเป็นความเสี่ยงกดดันตลาด คือ การระบาดโควิดสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ฯลฯ
แหล่งข่าว บล.กสิกรไทย มองตลาดหุ้นไตรมาส 3 ปี 65 แกว่งลง เฟ้น 4 กลุ่มรับมือศก.ถดถอย, bangkokbiznews, 3 ก.ค. 2565
COMMENTS