กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันพุธที่ระบุว่าดัชนีราคาผู้บริโภคทรงตัวในเดือนกรกฎาคมเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตามนีล คัชคารี ประธานเฟดสาขามินนิอาโปลิสกล่าวในการประชุม Aspen Ideas Conference ว่า “ยังอยู่ห่างไกลจากการประกาศชัยชนะ” ในเรื่องเงินเฟ้อ และเขายังไม่ได้ “เห็นอะไรเปลี่ยนแปลง” ทั้งนี้จำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 3.9% ภายในสิ้นปีและ 4.4% ภายในสิ้นปีหน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วง 2.25%-2.5%
เช่นเดียวกับชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกมองเงินเฟ้อว่า “สูงอย่างไม่อาจยอมรับได้” และเชื่อว่าเฟดน่าจะจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 3.25%-3.5% ในปีนี้ และ 3.75%-4% ภายในสิ้นปีหน้า ซึ่งสอดคล้องกับ สิ่งที่ประธานเฟดเจอโรมพาวเวลล์ส่งสัญญาณหลังจากการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดในเดือนกรกฎาคม
หลังจากรายงาน CPI ของวันพุธ ผู้ซื้อขายฟิวเจอร์สอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้ price in การขึ้นดอกเบี้ย 75 จุดเป็นครั้งที่สามในการประชุมนโยบายวันที่ 20-21 ก.ย. พร้อมกันนี้การ price in สำหรับการขึ้น 50 จุดกำลังเพิ่มขึ้น
ตลาดการเงินยัง price in อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 3.75% ภายในสิ้นปีนี้ และจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ซึ่งคาดว่าผู้กำหนดนโยบายจะเคลื่อนไหวเพื่อรับมือกับความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ
ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 8.5% ในเดือนกรกฎาคมจากปีก่อนหน้า รายงานของวันพุธระบุ แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงจากอัตรา 9.1% ของเดือนมิถุนายน แต่ราคายังคงเพิ่มขึ้นในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ยุคเงินเฟ้อที่สูงในช่วงทศวรรษ 1970 และต้นทศวรรษ 1980
“นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีแต่เฟดต้องการหลักฐานมากกว่านี้ (เรื่องเงินเฟ้อที่ชะลอตัว) ” คาริม บาสตา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ III Capital Management กล่าว ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคในเดือนสิงหาคมจะเปิดเผยในวันที่ 13 กันยายน หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่เฟดจะเริ่มประชุนนโยบาย
แหล่งข่าว Fed may slow rate hikes, but policymakers say more is needed โดย Reuters
COMMENTS