มองตลาดเอเชียไปกับนักวิเคราะห์อย่าง Jamie McGeever ตลาดเอเชียเปิดตลาดในเช้าวันจันทร์ด้วยความสดใจตามการดีดขึ้นของหุ้นโลก แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายและรายงานเงินเฟ้อที่จะออกมาในวันอังคารก็ตาม
โดยขณะนี้ น้ำเสียงจากผู้กำหนดนโยบายยังออกมาในแนวโน้มที่เข้มงวดอย่างต่อเนื่อง บอนด์ยีลด์อายุ 2 ปีแตะจุดสูงสุดในรอบ 15 ปี ณ จุดหนึ่งที่ 3.575% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยสะสมอาจอยู่ที่ 4% ภายในสิ้นปีนี้
ในด้านดัชนีชั้นนำก็สดสัย โดยดัชนี MSCI หุ้นทั่วโลกเพิ่มขึ้น 1.7% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยนับเป็นการทำผลงานรายวันที่ดีที่สุดในเดือน และทำผลงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้น 2.6% ซึ่งเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 4 สัปดาห์ที่ปิดในแดนบวก ดัชนีบิคเทคอย่างเพิ่มขึ้น 4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ปฏิทินทางเศรษฐกิจของเอเชียในสัปดาห์นี้เริ่มที่ รายงานเงินเฟ้อของอีนเดีย ตามมาด้วยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอินเดีย ยอดการค้าปลีก ยอดการว่างงาน และรายงาน FDI เป็นต้น
“เศรษฐกิจจีนถึงจุดต่ำสุดหลังจากการหดตัวในไตรมาส 2/22 จากนโยบายควบคุมการแพร่ระบาดและวิกฤตในตลาดที่อยู่อาศัยภายในประเทศ” นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley เขียนเมื่อวันอาทิตย์ ดังนั้นคาดว่าเศรษฐกิจของจีนในปีนี้จะโตได้แค่เพียง 2.8%
ตลาดเตรียมรอรับการแทรกแซงตลาดจากทางการของจีนและญี่ปุ่นเพื่อพยุงค่าเงินหยวนและเยนที่กำลังทำจุดต่ำสุดใหม่ โดยเฉพาะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางการญี่ปุ่นออกมาแทรกแซงทาวาขาว่าพร้อมที่จะปกป้องสกุลเงินเยน หลังจากที่เงินเยนทำจุดต่ำสุดในรอบ 24 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
พัฒนาการสำคัญที่จะให้แนวโน้มเพิ่มเติมแก่ตลาดในวันจันทร์:
- อัตราเงินเฟ้ออินเดีย (สิงหาคม)
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอินเดีย (กรกฎาคม)
- การเติบโตของสหราชอาณาจักร การผลิต การค้า อุตสาหกรรม การส่งออกบริการ (กรกฎาคม)
แหล่งข่าว Morning Bid: Happy Monday โดย Reuters
COMMENTS