น้ำมันขึ้นในการค้าช่วงต้นในเอเชีย หลังดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลงและตลาดกังวลเกี่ยวกับการอุปทาน ก่อนการแบนน้ำมันของรัสเซียในเดือนธันวาคมของสหภาพยุโรป
สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนต์เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์หรือ 1.3% สู่ 92.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากขึ้น 0.5% ในวันศุกร์ สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐอยู่ที่ 86.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์หรือ 1.2% ทั้งนี้ สัญญาซื้อขายทั้งสองฉบับร่วงลงมากกว่า 1% ในสัปดาห์ที่แล้วจากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
จีนประกาศยุติมาตรการล็อคดาวน์ในนครเฉิงตูแล้ว ซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ภายในประเทศ การส่งออกน้ำมันเบนซินและดีเซลของจีนก็ดีดตัวขึ้นเช่นกัน
ผู้บริหารระดับสูงของ Kuwait Petroleum Corporation’s (KPC) กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าอุปสงค์ของลูกค้าจะยังคงเท่าเดิม
ปัจจุบันชายฝั่งของสหรัฐผลิตน้ำมันได้มากกว่า 2.8 ล้านบาร์เรลต่อวันตามโควต้าการผลิตของ OPEC
การบรรทุกและส่งออกน้ำมันจากสต็อกน้ำมันของอิรักอย่าง Basrah สามารถกลับเข้าสู่ตลาดได้ในวันเสาร์นี้ หลังจากยุติกิจกรรมเนื่องจากพบการรั่วไหลของน้ำมัน
บริษัทให้บริการด้านพลังงาน Baker Hughes Co เผยเมื่อวันศุกร์ว่า บริษัทพลังงานของสหรัฐได้เพิ่มแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้น 4 แท่นรวมเป็น 763 ในสัปดาห์ที่ถึงวันที่ 16 กันยายน ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม
แหล่งข่าว Oil prices climb on weak dollar, supply concerns โดย Reuters
COMMENTS