SEARCH

HSBC เตือนนักลงทุนเลี่ยงหุ้นยุโรป

“หุ้นไทย” เปิดตลาดบวก 2.59จุด แนวโน้มปรับขึ้นต่อ
ต่างชาติกว้านซื้อหุ้นไทย เอเซีย พลัส คาดเงินไหลเข้าต่อรับเศรษฐกิจไทยฟื้น
Reliance Industries ของอินเดียวางแผนที่จะเพิ่มวงหนี้สหรัฐสูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์

Willem Sels ตำแหน่ง CIO ระดับโลกของ HSBC Private Banking และ Wealth Management กล่าวนักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการจัดสรรไปยังยุโรปจากวิกฤตด้านพลังงานของทวีปยุโรป ขณะที่ เศรษฐกิจระดับมหภาคในยุโรปยังคงหนาวเย็นจากการหยุดชะงักของอุปทานและผลกระทบของสงครามในยูเครนที่กระทบต่อราคาพลังงานและการเติบโต และบังคับให้ธนาคารกลางต้องกระชับนโยบายการเงินเพื่อคุมเงินเฟ้อ

ซึ่งโดยปกติ นักลงทุนมักจะหันไปหาตลาดยุโรปเพื่อราคาหุ้นในตลาดร่วงลงเพราะด้วยปัจจัยพื้นฐานที่ดี เมื่อผ่านไประยะยาวหุ้นดังกล่าวมักจะให้ผลตอบแทนที่ดี แม้ว่ายุโรปจะเป็นตลาดที่ถูกกว่าสหรัฐแต่ Willem Sels แนะนำว่าส่วนต่างระหว่างทั้งสองในแง่ของอัตราส่วนราคาต่อกำไร และ Valuations ไม่ได้ “ชดเชยสำหรับ ความเสี่ยงที่คุณอาจได้รับ”

ด้วยฤดูกาลรายได้ที่จะเริ่มอย่างจริงจังในเดือนหน้า นักวิเคราะห์คาดว่าการปรับลดรายได้ของบริษัทต่าง ๆ จะกระทบทั่วโลกในระยะสั้น ขณะที่ธนาคารกลางยังมุ่งมั่นที่จะควบคุมเงินเฟ้อพร้อมการยอมรับถึงภาวะถดถอยที่จะเกิดขึ้น

“เราเห็นการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ความกดดันด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้นแบบเรื้อรัง และการใช้จ่ายของภาครัฐและเอกชนที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนผลกระทบระยะยาวจากวิกฤตพลังงาน” Nigel Bolton ตำแหน่ง Co-CIO ของ BlackRock Fundamental Equities กล่าวเสริมว่า ผู้ค้าอาจสามารถแสวงหาประโยชน์จากความแตกต่างใน Valuation ของบริษัททั้งในภูมิภาค

ยุโรปเพิ่มกระจายแหล่งนำเข้าพลังงาน หลังจากก่อนนี้เคยพึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียถึง 40% ก่อนสงครามในยูเครนและมาตรการคว่ำบาตร “วิธีที่ง่ายที่สุดในการลดผลกระทบคือเราควรระวังบรรดาบริษัทที่มีรายได้จากพลังงานในสัดส่วนที่สูง โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ใช่พลังงานหมุนเวียน” Bolton กล่าว ทั้งนี้ หากการขึ้นราคาสินค้าไม่สามารถบรรเทาปัญหาความต้องการใช้ก๊าซได้จนถึงปี 2023 Bolton แนะว่าควรให้ความสนใจบรรดาบริษัทผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน ผู้รับเหมาทางทหาร บริษัทด้านการดูแลสุขภาพ และการบินและอวกาศ

แหล่งข่าว HSBC warns investors to avoid European stocks โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0