หุ้นเอเชียกำลังอยู่ในทิศทางลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด ท่ามกลางความผันผวนในตลาดเงินและตลาดตราสารหนี้จากสัญญาณของบรรดาธนาคารกลาง กอปกรกับความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลกและความเสี่ยงด้าน-ภูมิรัฐศาสตร์
ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นส่วนใหญ่ทรงตัวในวันศุกร์หลังการดีดตัวในห้องกงและในกลุ่มดัชนีบลูชิปจีนแผ่นดินใหญ่ ดัชนี Nikkei ลดลง 1.6%
แม้จะมีการฟื้นขึ้นในช่วงสั้นแต่ดัชนีในเอเชียยังอยู่ในทิศทางที่จะลดลง 12.5% ในเดือนนี้ ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ในด้านหุ้นฮ่องกงหนักกว่า เพราะอยู่ในทิศที่ร่วงลงรายไตรมาสมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2001 และดัชนีบลูชิปก็อยู่ในทิศทางที่ลดลงในรายไตรมาสมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2015
Timothy Moe หัวหน้านักยุทธศาสตร์หุ้นเอเชีย-แปซิฟิกของ Goldman Sachsกล่าวว่า “อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขื้น การเติบโตที่ชะลอตัว และเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า กำลังเป็นปัญหาและล้วนต่างรุนแรงมากขึ้น เราปรับลดการคาดการณ์ของเราลงอีกและคาดว่าผลการดำเนินงานระดับภูมิภาคส่วนใหญ่จะทรงตัวในช่วงสองไตรมาสข้างหน้า”
ดอลลาร์สหรัฐเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักที่ 111.88 ในวันศุกร์ หลังจากอ่อนค่าลง 0.9% ในวันก่อนหน้า แต่มันยังเพิ่มขึ้น 2.9% สำหรับเดือนนี้และเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้เยน หยวนจีน และสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่หลายแห่งทำระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ผู้ค้ายังระวังการแทรกแซงที่อาจเกิดขึ้นจากจีนและญี่ปุ่น สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าธนาคารกลางของจีนได้ขอให้ธนาคารของรัฐรายใหญ่เตรียมขายดอลลาร์เป็นสกุลเงินท้องถิ่นในตลาดต่างประเทศแล้ว
ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในการซื้อขายช่วงเช้าของวันศุกร์ โดยน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 0.11% สู่ 81.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์เพิ่มขึ้นเป็น 88.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทองคำสูงขึ้นเล็กน้อย โดยทองคำสปอตซื้อขายที่ 1663.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(1 ดอลลาร์ = 1.0195 ยูโร)
แหล่งข่าว Asian shares head for worst month since pandemic started โดย Reuters
COMMENTS