เฟดขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย หนึ่งในสี่เปอร์เซ็นต์ พร้อมส่งสัญญาณยกระดับการต่อสู้กับเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการซื้อบ้านและรถยนต์และจะไปลดอัตราเงินเฟ้อด้วยการลดความต้องการและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
สินเชื่อที่อยู่อาศัย
อัตราสินเชื่อที่อยู่อาศัยเริ่มสูงขึ้นโดยคาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยและมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นอีกในขณะนี้เนื่องจากเฟดกำลังเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมระยะสั้น อัตราเฉลี่ยสำหรับการจำนองอัตราคงที่ 30 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 4.27% ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 มีนาคม
โดยอัตราการจำนองที่สูงขึ้นสามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้าน และอาจทำให้ความต้องการบ้านลดลง ทั้งนี้ ด้วยสินค้าคงคลังของบ้านสำหรับขายที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อาจต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งก่อนที่จะเห็นผลกระทบดังกล่าว
อีกประเด็นคือการขาดแคลนรถยนต์เพื่อขายส่งผลให้ราคารถยนต์สูงขึ้น และขณะนี้อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจทำให้ค่าสินเชื่อรถยนต์แพงขึ้นและอาจขัดขวางไม่ให้บางคนซื้อรถยนต์เพิ่ม การเปรียบเทียบอัตราจากผู้ให้กู้หลายรายอาจช่วยให้ผู้ซื้อหาเงินกู้ที่มีราคาไม่แพงมาก
อัตราการออม
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจส่งผลให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากบัญชีออมทรัพย์ แต่นั่นอาจไม่เกิดขึ้นในทันที ธนาคารอาจใช้เวลาในการปรับขึ้นอัตราที่จ่ายสำหรับเงินฝาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีเงินสดจำนวนมากอยู่แล้ว
การเพิ่มขึ้นของอัตราระยะสั้นจะนำไปสู่การจ่ายที่มากขึ้นในบัตรเงินฝากและบัญชีออมทรัพย์อื่นๆ บัญชีออมทรัพย์ออนไลน์มักให้ผลตอบแทนสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ที่ถือกับธนาคารแบบดั้งเดิม
สินเชื่อ
สินเชื่อบางประเภทที่มีอัตราดอกเบี้ยที่ปรับได้ ซึ่งรวมถึงวงเงินสินเชื่อที่อยู่อาศัยและบัตรเครดิต อาจแสดงผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเกือบจะในทันที ทั้งนี้ การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยรอบแรกที่ 0.25 เปอร์เซ็นต์ที่ประกาศเมื่อวันพุธอาจไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคมากนัก แต่ผู้กู้อาจรู้สึกตึงเครียดมากขึ้นหลังจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยข้ามคืนของธนาคารกลางอาจเพิ่มขึ้นเป็นช่วง 1.75% ถึง 2.00% ภายในสิ้นปีและอาจสูงถึง 2.8% ภายในสิ้นปีหน้า
แหล่งข่าว How the Fed’s rate hikes could affect U.S. consumers โดย Reuters
COMMENTS