หุ้นเอเชียร่วง หลังงานรายงานจ้างงานสหรัฐฯ ที่สร้างความประหลาดใจ

ตลาดหุ้นเอเชียผ่อนคลายในวันจันทร์หลังจากข้อมูลการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่งอย่างน่าทึ่งช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก แต่ยังความตึงเครียดจากการดำเนินการจากธนาคารยังคงอยู่

ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นลดลง 0.1% ในการซื้อขายช่วงต้น ดัชนี Nikkei ลดลง 0.4% และดัชนีเกาหลีใต้ 0.6% ขณะที่ ฟิวเจอร์ส S&P 500 และฟิวเจอร์ส Nasdaq เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหลังจากความวุ่นวายในตลาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

Savita Subramanian นักวิเคราะห์ของ BofA ระบุ แนวโน้มรายได้ของบริษัทสำหรับปี 2565 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญโดยหุ้นส่วนใหญ่ตกลงตามรายงานผลประกอบการ “สะท้อนเห็นถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานและปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่แย่ลง โดยคาดว่าจะเกิดความปั่นป่วนในไตรมาสนี้มากกว่าไตรมาสที่ผ่านมา” เนื่องจากการขึ้นค่าจ้างซึ่งจะเพิ่มต้นทุนและกดดันต่อกำไรของบริษัท

รายงานการจ่ายเงินเดือนในเดือนมกราคมเผยอัตราการเติบโตประจำปีเฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้นเป็น 5.7% จาก 4.9% ขณะที่ การจ้างงานเดือนที่ผ่านมาปรับขึ้นเป็น 709,000 ตำแหน่ง

“รายงานไม่เพียงแต่บ่งชี้ว่าการจ่ายเงินเดือนมีมากเกินกว่าจะจินตนาการได้ แต่ยังมีรายได้ที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่เฟดวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อเงินเฟ้อ” Kevin Cummins หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ NatWest Markets กล่าว

ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนมกราคมจะครบกำหนดในวันพฤหัสบดีและอาจแสดงอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่เร่งตัวขึ้นสู่ระดับที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2525 ที่ 5.9% ส่งผลให้ตลาดขยับคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ 50 จุดในเดือนมีนาคมและ 1.5% ภายในสิ้นปีนี้

Klaas Knot ประธานธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์และสมาชิกสภาปกครองของ ECB กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าเขาคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

เงินยูโรอยู่ที่ 1.1456 ดอลลาร์โดยพุ่งขึ้น 2.7% ในสัปดาห์ที่แล้วด้วยอัตราที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2020 ซึ่งในทางเทคนิค หากทะลุแนวต้านที่ 1.1482 ดอลลาร์อาจเปิดทางให้พุ่งขึ้นไปต่อถึง 1.1600 ดอลลาร์หรือมากกว่านั้น

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ 115.27 เยน ขณะที่เงินยูโรเพิ่มขึ้นที่ 132.06 เยน โดยเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
การแกว่งตัวอย่างรุนแรงของค่าเงินยูโรทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงที่ 95.436 หลังจากที่ร่วงลง 1.8% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ทองคำแข็งค่าขึ้นที่ 1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ต้องเผชิญกับผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งขึ้นสูง

ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปทานจากสภาพอากาศที่เยือกเย็นในสหรัฐฯ และความวุ่นวายทางการเมืองในหมู่ผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก เบรนต์เพิ่มขึ้นอีก 32 เซนต์เป็น 92.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 42 เซนต์เป็น 91.89 ดอลลาร์

แหล่งข่าว Asia shares slip as U.S. jobs stunner hammers bonds โดย Reuters