SEARCH

หุ้นเอเชียปรับขึ้นก่อนประชุมเฟด ขณะที่หุ้นจีนฟื้นตัว

ดัชนีสหรัฐร่วงจนท้อ
โบรกชี้กำไรบจ.ไตรมาส2/65 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แห่อัพเป้าปีนี้
หุ้นเอเชียตึงเครียดท่ามกลางการประชุมเฟดที่ใกล้เข้ามา ยูเครนยังน่าเป็นห่วง

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในวันพุธเนื่องจากหุ้นจีนฟื้นตัวและก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ขณะที่ราคาน้ำมันยังคงผันผวนเนื่องจากนักลงทุนชั่งน้ำหนักผลการเจรจาสันติภาพในยูเครน
การดีดตัวขึ้นของหุ้นเอเชียเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากการติดเชื้อโควิดที่พุ่งสูงขึ้นในจีน และทำให้ความคาดหวังของธนาคารกลางของประเทศลดลง ส่งหุ้นในจีนแผ่นดินใหญ่และตลาดฮ่องกงร่วงลง

“ผู้คนกังวลว่าผู้กำหนดนโยบายจะเชื่อว่าเศรษฐกิจกำลังดีขึ้นมาก และการเติบโตกำลังฟื้นตัว และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม” ถิง ลู่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของโนมูระกล่าว “การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อยไม่ใช่เรื่องใหญ่อยู่ดี แต่ผู้คนต่างก็กังวลเกี่ยวกับนโยบาย Zero-Covid ตลาอสังหาริมทรัพย์และนโยบายอื่นๆ”

โฆษกสำนักสถิติของจีนเปิดเผยว่าจีนได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่เพิ่มขึ้นในประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ แต่จะต้องจับตาดูผลกระทบของการกลับมาของโควิด-19 ครั้งล่าสุด เมื่อวันพุธ หน่วยงานด้านสุขภาพของจีนรายงานจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า

ดัชนี Hang Seng พุ่งขึ้น 2.6% และดัชนี CSI300 blue-chip เพิ่มขึ้น 0.5% ส่งผลให้ตลาดเอเชียปรับตัวสูงขึ้นในเช้าวันพุธ โดยดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.21% หุ้นออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 1.08% และ Kospi เพิ่มขึ้น 0.55% ขณะที่ดัชนีหุ้น Nikkei เพิ่มขึ้น 1.29%

การเพิ่มขึ้นของหุ้นในเอเชียเกิดขึ้นหลังจากการแรลลี่ในชั่วข้ามคืนที่วอลล์สตรีท S&P 500 เพิ่มขึ้น 2.14%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 2.92% และดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.82%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐทรงตัวในการซื้อขายช่วงต้นของเอเชีย โดยผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีที่ 2.1455% หลังจากเพิ่มขึ้นก่อนหน้านี้เป็น 2.169% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2019 อัตราผลตอบแทน 2 ปีอยู่ที่ 1.847% จากระดับปิดที่ 1.857%

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยซื้อขายที่ 98.904 และไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 118.28 เงินยูโรขยับขึ้น 0.12% เป็น 1.0964 ดอลลาร์

แหล่งข่าว Asian shares up ahead of Fed meeting as China rebounds โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0