หุ้นเอเชียร่วง หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่วอลล์สตรีทเข้าสู่ตลาดหมี

ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นร่วงต่อเนื่อง 1.54% หุ้นออสเตรเลีย S&P/ASX200 ร่วง 4.6% ขณะที่ดัชนีหุ้น Nikkei ลดลง 2% ดัชนี Hang Seng ลดลง 0.91% และดัชนี CSI300 ลดลง 1.9%

แนวโน้มเชิงลบในเอเชียเกิดขึ้นหลังจากช่วงที่หุ้นสหรัฐร่วงลงในวันจันทร์ ซึ่งโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 75 จุดในการประชุมนโยบายครั้งต่อไป
ความคาดหวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในเชิงรุกเพิ่มขึ้นหลังจากอัตราเงินเฟ้อในปีที่แล้วถึงพฤษภาคมพุ่งขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 8.6%

ความกลัวว่าสหรัฐจะถดถอยทำให้ S&P 500 ลดลง 3.88% ขณะที่ Nasdaq Composite ลดลง 4.68% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 2.8% ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 ลดลงมากกว่า 20% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ล่าสุดซึ่งเป็นการยืนยันตลาดหมี

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2011 ในวันจันทร์และเส้นส่วนต่างของเส้นอัตราผลตอบแทนพลิกกลับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน เนื่องจากนักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับการควบคุมเงินเฟ้อของเฟดซึ่งอาจตามมาด้วยภาวะถดถอย

อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 3.3466% เมื่อเทียบกับการปิดของสหรัฐที่ 3.371% ในวันจันทร์ อัตราผลตอบแทนสองปีแตะ 3.3804% เมื่อเทียบกับการปิดของสหรัฐที่ 3.281%

ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.06% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 134.32 แต่ยังคงใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในรอบกว่าสองทศวรรษที่ 135.17 เมื่อวันจันทร์ สกุลเงินของยุโรปทรงตัวที่ 1.0407 ดอลลาร์ โดยลดลง 3.04% ในหนึ่งเดือน ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เพิ่มขึ้นที่ 105.19

Bitcoin ร่วงลงประมาณ 4.5% ในวันอังคารที่ 21,416 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือน หลังจากที่ Celsius Network ระงับการถอนเงิน
น้ำมันดิบสหรัฐลดลง 0.13% มาที่ 120.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเบรนท์ลดลงมาที่ 122.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทองคำเพิ่มขึ้น 0.42% เป็น 1,826.23 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แหล่งข่าว Asian stocks slide as Fed hike fears tip Wall St into bear market โดย Reuters