ดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์อ่อนค่าลงบ้างในวันพุธ ท่ามกลางความกังวลว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เฟื่องฟูจะฉุดรั้งการเติบโตทั่วโลก และธนาคารกลางของออสเตรเลียฟังดูไม่เร่งรีบที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดอลลาร์ออสซี่ร่วงลงเหลือ 0.7273 ดอลลาร์ และอยู่ห่างจากจุดสูงสุดของสัปดาห์ที่ 0.7440 ดอลลาร์ กลับมาอยู่ภายใต้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ 0.7318 ดอลลาร์ และแนวรับที่ประมาณ 0.7245 ดอลลาร์
ฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เตือนว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้นมีแนวโน้มว่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นและอาจส่งผลกระทบต่อค่าจ้าง กระนั้นยังเน้นว่า RBA จะต้องอดทนกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมีความเป็นไปได้ที่การเคลื่อนไหวจะเกิดขึ้นในปลายปีนี้
การสำรวจผู้บริโภคล่าสุดของ Westpac แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อและสถานการณ์ในยูเครนได้ทำลายความเชื่อมั่นในเดือนนี้ แม้ว่าข้อมูลธนาคารเกี่ยวกับการใช้จ่ายผ่านบัตรจะยังคงแข็งแกร่ง โดยตลาดกำลังเดิมพันการปรับขึ้นครั้งแรกอยู่ที่ 0.25% อาจมาเร็วที่สุดในเดือนมิถุนายน หากรายงานราคาผู้บริโภคสำหรับไตรมาสแรกแข็งแกร่งตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ในบรรดาธนาคารท้องถิ่นรายใหญ่ โดย CBA ถูกคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิถุนายน Westpac และ NAB ในเดือนสิงหาคม และ ANZ ในเดือนกันยายน
ฟิวเจอร์สมีการกำหนดราคาเพิ่มขึ้นเป็น 2.0% ภายในเดือนพฤษภาคมปีหน้า ขณะที่เป้าหมายการบรรลุอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.75-2.0% ขณธ? Stephen Wu นักเศรษฐศาสตร์ CBA คิดว่าจุดสูงสุดอาจอยู่ที่ 1.25% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาคครัวเรือนในออสเตรเลียมีหนี้สูงเป็นประวัติการณ์ “เราคาดว่า RBA จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินสดเป็น 1.25% ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2023และคงที่ไว้จนถึงสิ้นปี 2023”
แหล่งข่าว Australia, NZ dlrs give ground, RBA sticks to patient stance โดย Reuters
COMMENTS