นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี กล่าวว่า บริษัทมีการศึกษาการออกเหรียญคริปโทเคอเรนซี่ และรูปแบบการเก็บสะสมเหรียญ ในโลกเมตาเวิร์ส เพื่อนำเหรียญมาใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งรูปแบบเหมือนเกม Pokemon GO เชื่อว่าเป็นเทรนด์ที่ธุรกิจค้าปลีกทุกรายต้องทำ
ทั้งนี้แผนการศึกษาดังกล่าวของบริษัทโดนเบรกไว้ก่อน เพราะขณะนี้หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน เตรียมห้ามไม่ให้นำเหรียญคริปโทเคอเรนซี่ มาใช้จ่ายชำระสินค้าและบริการ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา ต้องรอความชัดเจน
” แผนการศึกษาดังกล่าว เรามองว่า ยังมีความจำเป็นในการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาวได้ และคงต้องรอความชัดเจนและพิจารณาให้รอบด้านอีกครั้ง”
ด้านนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือSCC กล่าวว่า บริษัทวางยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตสู่ความเป็นผู้นำในตลาดอาเซียน ภายใต้ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจซิเมนต์-วัสดุก่อสร้าง ธุรกิจเคมิคอลส์ ธุรกิจแพกเกจจิ้ง
ทั้งนี้วางเป้าหมาย 2-3 ปีข้างหน้า จะมีสัดส่วนรายได้ในอาเซียนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 30-40 % จากปัจจุบันอยู่ที่ 25-30% ของรายได้รวม โดยมองหาโอกาสการทำ Merger & Partnership (M&P) สร้างความร่วมมือกับเครือข่ายธุรกิจอาเซียน เน้นประเทศที่อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจยังเติบโตอีกมากและตลาดยังมีโอกาสเติบโตสูง โฟกัสที่เวียดนามและอินโดนีเซีย
สำหรับในเวียดนาม บริษัทได้เข้าไปลงทุนทางด้านปิโตรเลียม เคมิคอล ปัจจุบันโรงงานก่อสร้างเสร็จแล้ว 90%และน่าจะเริ่มทดสอบการผลิตได้ในกลางปีนี้และเริ่มผลิตจริงในกลางปี 2566 มีกำลังการผลิตเริ่มต้นราว40% ของตลาด ส่วนธุรกิจแพกเกจจิ้ง สร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ในเวียดนามตอนเหนือ คาดว่าจะเริ่มการผลิตในปี 2567
ขณะที่ในอินโดนีเซีย มุ่งนำร้านค้าปลีกสินค้าวัสดุก่อสร้างวัสดุตกแต่ง เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้ในงานก่อสร้าง ต่อเติมตกแต่งบ้านและสวนแบบครบวงจร ปัจจุบันมี30ร้านค้า ยังมีโอกาสเติบโตมากกว่าไทย ซึ่งในไทยมีกว่า 200 ร้านค้า ด้วยศักยภาพจำนวนประชากรอินโดนีเซียที่มากกว่าไทยและตลาดยังมีความต้องการสูง
COMMENTS